tag:blogger.com,1999:blog-58955863319776692092024-03-14T07:24:25.376-07:00ที่ว่างของฉันที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.comBlogger53125tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-30351686232830706302020-05-08T05:32:00.003-07:002020-05-08T05:32:49.374-07:00c<a href="https://www.covidvisualizer.com/" target="_blank">ovidvisualizer.</a>2020 CLICK HERE<br />
<center>
<br /></center>
ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-87625016453026288582015-04-16T15:56:00.002-07:002015-04-16T15:56:18.507-07:0010 วันใน Tokyoส่วนที่จะให้แสดง <span id="fullpost">
ส่วนที่เหลือ
</span>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgx48cfZUom5YgP7FAU3uswpK6f6Hi6KB5oFH7Syo_Dt_YXfdNIHDyGyl52Dar4nUU3ReX0_VR7WhL4jzwEzPIBg9uQQDuTs-2rqDffo2Ee2hBEMCpSWnyqg_OX7DOs9oE2fsVZ7L8oTLI/s1600/underconstruction.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgx48cfZUom5YgP7FAU3uswpK6f6Hi6KB5oFH7Syo_Dt_YXfdNIHDyGyl52Dar4nUU3ReX0_VR7WhL4jzwEzPIBg9uQQDuTs-2rqDffo2Ee2hBEMCpSWnyqg_OX7DOs9oE2fsVZ7L8oTLI/s1600/underconstruction.jpg" height="307" width="320" /></a></div>
<center>
<a href="https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>
ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-38442094159002353592014-06-05T15:40:00.000-07:002014-06-05T15:40:19.822-07:00"2 โหล 20"<span style="color: blue;">สำหรับใครที่ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ผมมีเคล็ดไม่ลับมาฝาก คือการยืดกล้ามเนื้อหลังปั่นจักรยาน
หลักในการยืดกล้ามเนื้อ ที่จะนำเสนอให้เพื่อน ๆ นักปั่น จำกันง่าย ๆ ก็คือ " 2 โหล 20 "
</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">เนื่องจากท่าที่เราจะทำการยืดกล้ามเนื้อกันมีจำนวนทั้งหมด 12 ท่า ทำซ้ำท่าละ 2 ครั้ง ครั้งละ 20 วินาที และหายใจสม่ำเสมอขณะยืดกล้ามเนื้อ อย่ากลั้นหายใจ </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 1 ยืดกล้ามเนื้อน่อง (มัดยาว) : ยืนก้าวขาไปข้างหน้า 1 ก้าวใหญ่ ปลายเท้าทั้ง 2 ข้างให้ชี้ไปด้านหน้า แล้วย่อเข่าขาข้างหน้า ในขณะที่ขาข้างหลังยืดตรง ส้นเท้าติดพื้นตลอดเวลา
อย่าให้ลอย ลำตัวตั้งตรงไม่โน้มไปข้างหน้า มือเท้าเอวแล้วดันสะโพกไปข้างหน้า จะรู้สึกตึงบริเวณน่องและข้อพับเข่าด้านหลัง </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 2 ยืดกล้ามเนื้อน่อง (มัดสั้น) : ยืนกางขา ความกว้างเท่าไหล่ ย่อตัวลงนั่งยอง ๆ เท้าติดพื้นทั้งฝ่าเท้า วางมือแตะพื้นอยู่ระหว่างขา 2 ข้าง โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
ไม่ให้ส้นเท้าลอยขึ้นจากพื้น จะรู้สึกตึงบริเวณน่อง </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;"> ท่าที่ 3 ยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง : ยืนก้าวขาไปข้างหน้า 1 ก้าวใหญ่ กระดกข้อเท้าขาที่อยู่ข้างหน้าขึ้นให้เต็มที่ แล้วย่อเข่าข้างหลัง
โน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับทิ้งก้นไปด้านหลัง จะรู้สึกตึงบริเวณข้อพับเข้าด้านหลัง </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 4 ยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า : ยืนตัวตรง เท้าชิดกัน พับขาข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหลังให้ส้นเท้าแตะก้น
ใช้มือข้างเดียวกันจับที่ปลายเท้าแล้วดึงเข้าหาตัวให้หัวเข่าข้างที่พับอยู่เสมอหรืออยู่หลังต่อหัวเข่าข้างที่เป็นขายืน ลำตัวยืดตรง ไม่ก้มหน้า จะรู้สึกตึงบริเวณหน้าขา </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 5 ยืดกล้ามเนื้อต้นขาด้านใน (ขาหนีบ) : ยืนกางขากว้างประมาณ 2 ช่วงไหล่ ย่อเข่าลงให้มากที่สุด ก้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับใช้มือดันบริเวณเข่าฉีกขาไปด้านหลัง จะรู้สีกตึงบริเวณต้นขาด้านใน </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 6 ยืดกล้ามเนื้อหลัง : ยืนตัวตรง เท้าชิด แล้วก้มตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้มือแตะพื้น เข่าตรง-ห้ามงอ พร้อมกับก้มศีรษะให้สายตามองลอดหว่างขาไปด้านหลัง จะรู้สึกตึงบริเวณหลังขา หลัง และคอ
</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 7 ยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง (มัดตรง) : ยืนตัวตรง มือทั้ง 2 ข้างวางที่บั้นเอวด้านหลัง แล้วแอ่นตัวพร้อมกับใช้มือดันบั้นเอวไปข้างหน้า เงยหน้าขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ระวังอย่าให้หงายหลัง
จะรู้สึกตึงบริเวณคอ หน้าท้อง และขาหนีบ </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 8 ยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง (มัดเฉียง) : ยืนตัวตรง แอ่นสะโพกไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วเอียงตัวไปด้านใดด้านหนึ่ง จะรู้สึกตึงบริเวณด้านข้างลำตัว </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 9 ยืดกล้ามเนื้อหน้าอก : ยืนตรง กางแขนข้างใดข้างหนึ่งไปด้านข้างระดับเดียวกับไหล่ พับศอกตั้งตรงให้นิ้วทั้ง 5 นิ้วชี้ขึ้นฟ้า แล้ววางแขนทาบกับผนัง เสา ต้นไม้ หรือเพื่อนข้าง ๆ
หันหน้าและบิดตัวไปทางแขนอีกข้างหนึ่ง จะรู้สึกตึงบริเวณหน้าอก </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 10 ยืดกล้ามเนื้อแขนท่อนบน : ยืนตัวตรง มือทั้ง 2 ข้างประสานกันข้างหลัง ไม่ต้องบิดมือ แล้วดันแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นพร้อม ๆ กัน จะรู้สึกตึงบริเวณท้องแขน </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 11 ยืดกล้ามเนื้อแขนท่อนล่าง : ยืนตัวตรง ยื่นมือข้างใดข้างหนึ่งมาข้างหน้า คว่ำมือลงให้ปลายนิ้วทั้ง 5 นิ้วชี้ลงพื้น แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งกดมือเข้าหาตัวและดึงมือให้เอียงไปด้านนิ้วก้อยของมือที่ถูกกดเล็กน้อย
ไม่ยกไหล่ จะตึงบริเวณแขนท่อนล่าง </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">ท่าที่ 12 ท่ายืดกล้ามเนื้อคอ-บ่า : ยืนตัวตรง เก็บคางเข้าหาตัว แล้วก้มหน้าให้คางชิดอก เอามือทั้ง 2 ข้าง ช่วยกดศีษระเล็กน้อย หลังตรงไม่งอ จะรู้สึกตึงบริเวณต้นคอ </span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<span style="color: blue;">แนะนำเพิ่มเติมในนักปั่นที่ปั่นระยะทางไกล ๆ ปั่นเร็ว ๆ หรือปั่นนาน ๆ ให้เพิ่มจำนวนชุดในการยืดกล้ามเนื้อขึ้น เป็น "5 โหล 20" และหายใจเข้าขออกอย่างสม่ำเสมอ
ท่ายืดกล้ามเนื้อเหล่านี้ให้ทำหลังจากขี่จักรยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่าไหนทำไม่ได้ไม่ต้องฝืน และสามารถทำท่าอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ </span><br />
<span style="color: blue;">ในกรณีของนักปั่นที่มีการบาดเจ็บเดิมอยู่แล้วให้ทำเท่าที่ทำได้
อย่าให้เจ็บและเมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นให้หยุดทันที </span><br />
<span style="color: blue;">12 ท่า ไม่ยากที่จะทำ ไม่เสียเวลาจนเกินไป น้องหนิมไม่รังควาญทั้งรถจักรยานและตัวเรา เริ่มตั้งแต่วันนี้จะได้สนุกการปั่นจักรยานไปได้นาน ๆ ครับ</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<br />
<span style="color: blue;">ที่มา :<a href="https://m.facebook.com/werideforfun?_mn_=11" target="_blank">https://m.facebook.com/werideforfun?_mn_=11</a>
</span><br />
<span style="color: blue;"><br /></span>
<center>
<a href="https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5895586331977669209#top"><span style="color: blue;">TOP</span></a></center>
ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-59236313103266789942014-02-01T19:43:00.000-08:002014-02-01T19:48:39.138-08:00ตลุยปีนัง...มาเลเซีย<span style="color: #0b5394;">ห่างหายไปซะนาน เพราะมัววุ่นอยู่กับงานครับ เดินทางไปโน่นมานี่อยู่เรื่อย</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ว่าแล้วมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span><span style="color: #0b5394;">11 มิถุนายน 2012….</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span id="fullpost" style="color: #0b5394;"><br /></span><br />
<span style="color: #0b5394;">ผมเดินทางไปทำงานกับกลุ่มเพื่อนๆ สายงานการแสดงเหมือนเดิมครับ </span><br />
<span style="color: #0b5394;">หากแต่ว่าผู้ร่วมงานไม่เหมือน ครั้งที่ไปสิงคโปร์
จะมีก็แค่เพื่อนนักดนตรีที่เล่นตำแหน่งคีย์บอร์ดคนเดียว นอกนั้นคนใหม่ทั้งหมดรวม 14 ชีวิต ตามสัญญาว่าจ้างจากผู้ประกอบการที่โน่น</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ออกจากกรุงเทพโดยเครื่องบินไปลงที่หาดใหญ่ แล้วทางผู้ประกอบการได้จัดรถตู้สองคันมารับที่สนามบินหาดใหญ่ จากนั้นใช้เวลาเดินทางไปอีก ชั่วโมงเศษๆก็เข้าด่านตรวจคนเข้าเมือง อำเภอสะเดา แล้วผ่านเข้าเขตประเทศมาเลเซีย</span><br />
<span style="color: #0b5394;">จากจุดนั้นเดินทางไปอีกสามชั่วโมงก็ถึงสะพานข้ามไปเกาะปีนัง ซึ่งสะพานนี้มีความยาวถึง 13 กิโลเมตรเลยทีเดียว วิวโดยรอบสวยงามครับ มองเห็นเกาะเล็ก เกาะน้อย เป็นทิวทัศน์ที่น่ามอง
ปีนัง เป็นรัฐๆ นึง ในประเทศมาเลเซีย มีสองเขต ส่วนที่ยังไปข้ามสะพานไปเรียกว่า บัตเตอร์วอร์ท และส่วนที่ข้ามสะพานปีนังไปแล้วเรียกว่า จอช์จทาวน์ ครับ ซึ่งคณะพวกผมต้องทำงานที่นั่น
ผู้คนที่ปีนังก็เป็นคนจีนเชื้อสายมาเล คนมาเลโดยกำเนิด และคนอินเดีย รวมทั้งบังคลาเทศ</span><br />
<span style="color: #0b5394;">การเดินทางที่นั่นมีรถเมล์ครับแต่ดูเหมือนจะน้อยกว่ารถยนต์ส่วนตัวนะตามที่เห็น เพราะเวลารอขึ้นรถเมล์นานๆจะโผล่มาสักคันนึง ส่วนแท็กซี่มิเตอร์ก็มี แต่โบกทีไรบัง แกคิดราคาเหมาทุกที ไม่รู้เพราะอะไร แล้วจะมีมิเตอร์ไว้….เพื่อ?</span><br />
<span style="color: #0b5394;">อาหารประเภทหมู จะหารับประทานยากหน่อย ส่วนใหญ่จะเป็นไก่กับเนื้อ ส่วนผักราคาค่อนข้างแพงครับ
ส่วนที่น่าแปลก คือ ราคาน้ำมันถูกกว่าเมืองไทย อยู่มากครับ ส่วนก๊าซ LPG ราคาแพงกว่าเมืองไทยครับ
ที่พักของผมเป็นคอนโด ครับใหญ่มากสะอาด ผมอยู่ชั้น 14 และมีฟิตเน็คคลับอยู่ชั้น 5 ….เยี่ยมไปเลยขอบอก</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ค่าเงินมีหน่วยเป็น ริงกิต "RM" (Ringgit Malaysia) ครับ</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ส่วนอัตราแลกเปลื่ยนจะอยู่ที่ 1 ริงกิต เท่ากับ 10 บาท</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">ช่วงที่ผมไปมีการจัดงานเทศการศาลเจ้าของคนจีนมาเล ก็จะมีการแสดงขับกล่อมบทเพลงตามศาลเจ้าต่างๆเป็นเวลาถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนครับ เล่นเอาผมนอนไม่ได้ต้องหา Ear-plug มาอุดหูกันเลย
หลายคนสงสัยว่า เห็นลงเรื่องลี้ลับหลายเรื่องที่ไปมา แล้วที่มาเลไม่เจอบ้างหรืองัย …!!!!!</span><br />
<span style="color: #0b5394;">หึหึ…เจอซิครับ แต่ไม่จัง แหม!!!!</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">ก็ช่วงเทศกาลนี้แหละพอดิบพอดี
วันหนึ่ง ผมอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงาน รวมทั้งเพื่อนๆด้วย ระหว่างที่ผมออกจากห้องน้ำ ก็มองไปด้านเทอร์เรซด้านนอกซึ่งเป็นกระจกบานเลื่อน …โอ้ววว …พระเจ้า…</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ผมเห็นผู้หญิงหน้าตาคมๆผิวสี เอวบางร่างน้อยเธอใส่กางเกงและใส่เสื้อแขนสามส่วนสีค่อนข้างขาว นั่งอยู่ด้านนอกระเบียงเทอร์เรซนั้น ซึ่งเป็นจุดที่พวกเราชอบไปนั่งเล่นรับลม สูบบุหรี่ อะไรทำนองนั้น แต่ผู้หญิงหน้าตา มาเล๊ มาเล คนนั้นมาจากไหนอ่ะ พวกเราไม่มีใครเป็นมาเลเชื่ยน นะ!!!!</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ผมจ้องมองไปที่เธอ เธอเองก็จ้องมาที่ผม มันทำให้ผมงง เลยหันไปถามเพื่อนที่รออาบน้ำต่อจากผทนั้นว่า เห็นผู้หญิงนั้งอยู่ระเบียงมั้ย เพื่อนตอบว่า ไม่เห็นมีใครนี่ …!! พอผมหันกลับไปพร้อมกับเอ่ยปากพูดว่า ก็นั้นงัย พร้อมเดินไปที่ระเบียงเทอร์เรซ แต่ทว่าไม่มีใครเลย ไม่มีใครนั่งอยู่ที่นั่น ผมคิดในใจว่า “โดนซะแล้วงัย”</span><br />
<span style="color: #0b5394;">คนอื่นๆก็มีเจอกันบ้างพอมีสีสันประเภทเห็นเงาในห้อง แต่เปิดห้องไม่เจอใครเลย ก็มีประมาณนี้ครับ
ผมทำงานที่ปีนัง หนึ่งเดือนกับยี่สิบวัน แล้วพวกผมก็ขอกลับ เพราะเนื่องจากหุ้นส่วนบริหารมีปัณหากันเอง
แต่พวกผมก็ดีใจครับที่ทำยอดขายของร้านผู้ประกอบการ ได้กำไรมาก และเป็นยอดที่มากที่สุดตั้งแต่มีคนไทยไปทำงานที่นั่น รวมทั้งผู้ร่วมงานคนมาเล ทุกคนอัธยาศัยดีมาก เป็นกันเองด้วย</span><br />
<span style="color: #0b5394;">ดีใจที่ได้มีโอกาสไปที่นั่น ดีใจที่นำเม็ดเงินกลับเมืองไทย และดีใจที่ปลอดภัยกลับมา…….
</span><br />
<center>
<a href="https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>
ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-80108390706702316772014-01-31T19:54:00.002-08:002014-01-31T19:54:12.820-08:00ยามหัศจรรย์สำหรับคุณยีน คอนลิน นักเทคนิคการแพทย์ ได้รวบรวมสรรพคุณของพืชผักช่วยรักษาโรค
<br />
พิมพ์โดยสำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์คอนลิน นิวยอร์ก กล่าวถึง สรรพคุณของพืขผักแต่ละชนิด
<br />
ว่ามีคุณประโยชน์ต่อการรักษาได้อย่างไร ไว้ในหนังสือชื่อ " ยามหัศจรรย์สำหรับคุณ " เช่น<br />
<br />
<span id="fullpost">
1. ปวดหัว กินปลามาก ๆ ทั้งปลาทะเล ปลาน้ำจืด น้ำมันจากปลา มีสรรพคุณป้องกันการปวดหัว กินพร้อม ๆ กับขิง จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวลง </span><br />
<br />
2. แพ้ละออง เป็นแพ้ทั้งฝุ่นและเกสรดอกไม้ ให้กินโยเกิร์ต หรือ นมเปรี้ยว<br />
<br />
3. โรคหัวใจ ดื่มชาเขียว เป็นประจำ สารในชาเขียวช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันไปจับตัวตามผนังหลอดเลือด<br />
<br />
4. โรคนอนไม่หลับ ดื่มน้ำผึ้ง เป็นประจำ สารในน้ำผึ้งมีฤทธิ์เป็นยากล่อมประสาททำให้นอนหลับฝันดี<br />
<br />
5. โรคหืดหอบ กินหอม ต้นหอม หรือ หัวหอม ก็ได้มีตัวยาทำให้หลอดลมปลอดโปร่ง<br />
<br />
6. โรคไขข้ออักเสบ กินปลาเท่านั้น แก้ไขเป็นปกติได้ ได้แก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า (ปลาโอ) ปลาแมคเคอเรล ปลาซาดีนส์ ( ปลากระป๋อง ) น้ำมันปลาทำให้โรคไขข้ออักเสบบรรเทาลง<br />
<br />
7. ท้องผูก ท้องอืด ให้กินกล้วย หรือ ขิง กล้วยทำให้ไม่ท้องผูก และ ขิงทำให้อาการคลื่นไส้ในตอนเช้าหายไป<br />
<br />
8. ติดเชื้อในถุงกระเพาะปัสสาวะ ให้ กินน้ำคั้นจากลูก แคนเบอรี ( ไม้เมืองหนาว ) กรดเข้มข้นในลูกไม้ฆ่าแบคทีเรียได้<br />
<br />
9. โรคหงุดหงิด ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะเกิดในผู้หญิงสูงอายุด้วย ให้ กินข้าวโพด ช่วยบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล และความคิดสับสนได้<br />
<br />
10. โรคกระดูกพรุน ทั้งกระดูกเปราะและแตกง่าย แก้ไขได้โดยให้กินสับปะรด ซึ่งมีสารแมงกานีส อยู่มาก ช่วยให้กระดูกแข็งแรงได้<br />
<br />
11. ความจำเสื่อม แก้ไขโดย กินหอยนางรม หอยแครง หรือหอยอื่น ๆ ซึ่งในเนื่อหอยมีสารสังกะสีช่วยบำรุงสมองได้ดี<br />
<br />
12. เป็นหวัด กินกระเทียม ทำให้จมูกโปร่ง สมองโล่ง กระเทียมช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
13. ไอ จาม กินพริกแดง สารที่นำมาทำยาแก้ไอนั้นสกัดมาจากพริกแดง<br />
<br />
14. มะเร็งเต้านม กินข้าวสาลี รำข้าว และกะหล่ำปลี จะช่วยป้องกันได้ดี โดยเฉพาะรำข้าง และกะหล่ำปลี ช่วยให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนได้ในปริมาณที่เหมาะสม ข้อสำคัญ อย่ากินไก่มาก เพราะใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในการเร่งการเจริญเติบโต<br />
<br />
15. มะเร็งปอด กินส้ม และ ผักใบเขียว มีวิตามินเอ อยู่มากจะช่วยป้องกันการก่อพิษของสารเบต้าแคโรทีน<br />
<br />
16 แผลในกระเพาะอาหาร กินกะหล่ำปลี ซึ่งมีสารเคมีช่วยทำให้แผลเรื้อรังในกระเพาะอาหาร และ ลำไส้เล็กหายขาดได้<br />
<br />
17. โรคท้องร่วง กินแอปเปิ้ลสดทั้งเปลือก ช่วยให้อาการปั่นป่วนในท้องเมื่อเชื้อโรคบิดเล่นงานทุเลาลง<br />
<br />
18. เส้นเลือดตีบ กินผลอโวคาโด แก้ได้เพราะไขมันดี " โมโรอันแซตเทอเรต " ที่มีอยู่ในผลไม้ชนิดนี้ทำลายไขมันเลว " คลอเลสเตอรอล " ได้<br />
<br />
19. ความดันโลหิตสูง กินผลโอลีฟ และผักขึ้นฉ่าย พืชทั้งสองชนิดนี้มีสารเคมี ทำให้ระดับความดันเลือดลดลง<br />
<br />
20. น้ำตาลในเลือดไม่สมดุล กินผักบร็อกโรลี่ และ ถั่วลิสง ซึ่งมีอินซูลินทำให้น้ำตาลในเลือดสมดุลได้
<br />
<br />
พืชผักที่กินเป็นอาหารประจำวันนั้น นอกจากจะอิ่มท้องแล้ว<br />
ยังมีสรรพคุณช่วยสร้างความสมดุลภายในร่างกาย
ช่วยป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆ ได้ <br />
ถ้าได้เรียนรู้ที่จะรู้จักเลือกกินให้เหมาะกับตนเอง
คุณประโยชน์ของพืชสมุนไพร <br />
โดยเฉพาะพืชสมุนไพรไทยนั้น นับเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย<br />
เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านในท้องถิ่นอันควรปกป้องหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ ให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานไทย
ขอให้ช่วยกันป้องกันไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของคนต่างชาติ ที่จ้องฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของเราไปเป็นของตนทุกวิถีทาง<br />
ดังนั้นอนุชนรุ่นหลังจึงควรที่จะได้นำมาศึกษา ค้นคว้า และคิดค้น ตามแนวทางที่บรรพบุรุษของเราท่านได้วางพื้นฐานไว้ให้
เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในด้านโภชนาการของคนไทยต่อไป
<br />
<br />
<center>
<a href="https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>
ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-88689357214149968462014-01-31T19:42:00.001-08:002014-01-31T19:46:25.389-08:00ผู้ชายมาจากดาวอังคาร..ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์.. <span style="color: #0b5394;">กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ขณะที่ชายหนุ่มบนดาวอังคารส่องกล้องทางไกลไปบนท้องฟ้า
ทันทีที่มองเห็นหญิงสาวบนดาวศุกร์ เขาก็ตกหลุมรักเธอและรีบประดิษฐ์ยานอวกาศเพื่อเดินทางมายังดาวศุกร์ทันทีสาวบนดาวศุกร์ออกมาต้อนรับหนุ่มจากดาวอังคาร ด้วยความยินดี
เธอรู้อยู่ตลอดเวลาว่าวันนี้จะต้องมาถึง เธอพร้อมแล้วที่จะพบกับความรักที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
ความรักระหว่างหนุ่มจากดาวอังคารและสาวจากดาวศุกร์เป็นสิ่งมหัศจรรย์ ทั้งสองมีความสุขที่อยู่ร่วมกัน ทำสิ่งต่าง ๆ และแบ่งปันทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกันแม้ว่าทั้งสองจะมาจากดาว (เคราะห์) คนละดวง
แต่พวกเขาก็ยอมรับความแตกต่างของอีกฝ่ายหนึ่งทั้งสองใช้เวลาเป็นเดือน ๆ เพื่อเรียนรู้ความแตกต่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความต้องการ ความชอบและพฤติกรรมที่ไม่เหมือนกัน
ทั้งสองอยู่ร่วมกันด้วยความรักความเข้าใจมาเป็นเวลาหลายปีแต่อยู่มาวันหนึ่ง
ทั้งสองก็ตัดสินใจออกเดินทางไปอยู่บนดาวดวงใหม่ชื่อว่า “ โลก ” </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span id="fullpost" style="color: #0b5394;">
ใน ช่วงแรกทุกอย่างดูสวยงามและเต็มไปด้วยความสุข
แต่บรรยากาศบนโลกก็ทำให้ทั้งสองมีอันแปรเปลี่ยนไป
เช้าวันหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาทั้งสองคนก็จำเรื่องราวอะไรในอดีตไม่ได้อีกเลย
พวกเขาไม่รู้ว่าแต่ละคนมาจากดาวคนละดวง และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกัน
ตั้งแต่วันนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรียนรู้มาถูกลบไปจากความทรงจำจนหมด
ความขัดแย้งต่าง ๆ ก็เริ่มก่อตัวตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
จำได้ไหมว่าเราเคยแตกต่างกันเมื่อ จำไม่ได้ว่าแต่ละคนแตกต่างกัน
และผู้ชายไม่มีวันเหมือนผู้หญิงอย่างเด็ดขาดทำให้เรามักโกรธหรือไม่เข้าใจอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ ๆ
เราคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะต้องคิดและทำเหมือนกับเราเราอยากให้อีกฝ่ายหนึ่ง “ ชอบเหมือนกับที่เราชอบ” และ “ รู้สึกเหมือนกับที่เรารู้สึก ”เรา คิดผิดไปว่า ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งรักเราแล้ว พวกเขาจะแสดงออก
และประพฤติในแบบเดียวกันกับเรา ความคิดแบบนี้ทำให้ต้องผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า
และไม่มีเวลามาสนใจเรื่องความแตกต่างของทั้งสองฝ่าย ความรัก เป็นสิ่งมหัศจรรย์
เมื่อไรที่คุณพบความรัก มันจะทำให้คุณรู้สึกอยากมีชีวิตที่เป็นอมตะ
และคิดว่าความรักจะยืนยงไปตลอดกาล
เรามักคิดว่า บางทีเราคงไม่พบปัญหาเหมือนกับที่พ่อแม่ของเราพบเราได้แต่หวังว่าจะมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขตลอดไป และไม่ยอมรับความจริงที่ว่าความรักก็ตายไปได้เหมือนกันแต่เมื่อความมหัศจรรย์หายไปและโลกความเป็นจริงปรากฏขึ้น ผลก็คือผู้ชายยังคิดว่าผู้หญิงจะคิดและทำเหมือนผู้ชายและผู้หญิงคิดว่าผู้ชายจะรู้สึกและแสดงออกเหมือนผู้หญิง โดยไม่เคยคิดถึงความแตกต่างของทั้งสองฝ่ายเลยแม้สักนิดไม่เคยสละเวลามาทำความเข้าใจ และยอมรับความแตกต่างของแต่ละฝ่ายแม้แต่นิดเดียว เรากลายเป็นพวกที่ชอบเรียกร้อง ไม่พอใจ มีอคติต่อคนอื่น และไม่มีความอดทน เมื่อส่วนที่ดีที่สุดของความรักเริ่มจางหายไป ปัญหาก็เริ่มเข้ามาแทนที่ ความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น การพูดคุยลดน้อยลง และมีความหวาดระแวง ทำให้ต้องเก็บกดความรู้สึกต่าง ๆ ไว้ข้างใน ถึงต้อนนี้ มหัศจรรย์แห่งรักก็หายไปเหลือแต่คำถามที่ค้างอยู่ในใจว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมจึงเกิดขึ้น? ทำไมต้องเกิดกับเราสองคนด้วย? เพื่อ ให้ได้คำตอบ จิตใจเราจะพยายามค้นหารูปแบบและปรัชญาที่ซับซ้อนต่าง ๆ มากมายมาใช้เป็นคำตอบ แต่มันช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เพราะความรักได้มลายหายไปเสียแล้ว...
ในทำนองเดียวกัน เมื่อผู้ชายตกหลุมรัก เขาจะถูกกระตุ้นให้ทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อบริการผู้อื่น เขาเชื่อมั่นว่าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้ นี่เป็นเวลาที่เขาจะพิสูจน์ฝีมือตัวเองให้มากที่สุด ยกเว้นแต่ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จเท่านั้น เขาจึงจะหันกลับไปเป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนเดิม</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ </span><br />
<span style="color: #0b5394;">ขอเพียงเปิดโอกาสให้เขาพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น
ผู้ชายจะทำดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ </span><br />
<span style="color: #0b5394;">ยกเว้นแต่ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จเท่านั้น
เขาจึงจะหันหลับไปเป็นคนแก่ตัวเหมือนเดิม</span><br />
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">เมื่อผู้ชายมีความรัก เขาสนใจคนอื่นมากพอ ๆ กับสนใจตัวเอง เขาหลุดออกมาจากความคิดที่ทำเพื่อตัวเองมาเป็นการทำงานเพื่อคนอื่น เขาทำให้อีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขเหมือนที่ทำให้กับตัวเอง เขาอดทนและทำทุกอย่างได้เพียงเพื่อให้เธอมีความสุขเท่านั้น เพราะความสุขของเธอก็เหมือนกับความสุขของเขาเช่นกัน ในวัยเด็ก ผู้ชายสนุกกับการเอาใจใส่ตัวเอง แต่เมื่อเริ่มเป็นผู้ใหญ่ การเอาใจใส่ตัวเองอย่างเดียวไม่พอ เพื่อทดแทนสิ่งที่หายไป เขาทำให้ชีวิตตื่นเต้นขึ้นด้วยการมีความรัก ด้วยการทำสิ่งต่าง ๆ ให้คนอื่นโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน เป็นสิ่งที่เขาอยากทำมานานแล้ว แม้ว่าเขาจะต้องการความรักตอบก็ตาม แต่ความต้องการสูงสุดของเขาก็คือการให้ความรัก ผู้ชายไม่เพียงแต่ต้องการความรักเพียงความเดียว แต่ดิ้นรนเพื่อให้ได้ความรักเลยทีเดียว ปัญหาก็คือผู้ชายไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร พวกเขาแทบไม่เคยเห็นพ่อทำความพอใจให้กับแม่ของเขาเลยสักครั้ง ผลลัพธ์ก็คือ ทำให้เขาไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงก็คือการเป็นฝ่ายให้ เมื่อความสัมพันธ์เกิดล้มเหลว เขาจะหดหู่ใจและติดอยู่ในถ้ำ เลิกสนใจคนอื่นและไม่รู้ว่าทำไมตัวเองจึงหดหู่มากขนาดนั้น เมื่อเป็นอย่างนี้ เขาจะวนเวียนอยู่กับการทำตัวห่างออกมาและเข้าไปอยู่ในถ้ำซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาถามตัวเองว่ามีชีวิตอยู่เพื่อใคร และควรจะทำอย่างไร เขาไม่เคยรู้เลยว่าการที่เขาหยุดสนใจคนอื่นนั้น เป็นเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าสำหรับคนอื่น เขาไม่รู้ว่า ถ้าเขาพบใครสักคนที่เห็นค่าในตัวเขาแล้ว เขาจะสามารถสลัดความหดหู่ใจให้หมดไปและมีชีวิตที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~</span><br />
<span style="color: #0b5394;"> ถ้าไม่มีใครต้องการเขา
ก็เท่ากับว่าเขากำลังตายไปอย่างช้า ๆ นั่นเอง</span><br />
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">เมื่อผู้ชายรู้สึกว่าไม่สามารถทำให้ชีวิตของคนใดคนหนึ่งดีขึ้นได้ เป็นเรื่องลำบากที่จะคงความสัมพันธ์แบบเดิมอีกต่อไป เขาจะตื่นเต้นได้อย่างไรถ้าไม่มีใครต้องการเขาแล้ว ถ้าอยากตื่นเต้นอีกครั้ง ต้องมีใครสักคนที่แสดงความชื่นชม ไว้วางใจ และยอมรับในตัวเขา ถ้าไม่มีใครต้องการเขา ก็เท่ากับว่าเขากำลังตายไปอย่างช้า ๆ นั่นเอง เมื่อผู้หญิงรักผู้ชาย ความรักของผู้หญิงก็เปรียบเหมือนกับที่ชาวศุกร์เชื่อวา ชาวอังคารกำลังเดินทางมาหาเธอ ชาวศุกร์ฝันว่า สักวันหนึ่งจะมียานอวกาศจากสวรรค์บินมาหาเธอนำความเข้มแข็งและอบอุ่นของชาวอังคารมามอบให้กับเธอ ชาวอังคารอุทิศตัวทั้งหมดให้กับความสวยและความดีงามของชาวศุกร์ ชาวอังคารรู้ดีว่า พลังอำนาจและความสามารถของเขาจะไร้ค่าถ้าไม่มีใครให้เขาคอยดูแล พวกเขาตื่นเต้นและยินดีที่จะมีโอกาสรับใช้ คอยเอาใจ และตอบสนองความต้องการของชาวศุกร์ จะมีอะไรมหัศจรรย์มากไปกว่านี้ได้ ความฝันแบบนี้ ทำให้ชาวศุกร์หลายคนหลุดพ้นจากความหดหู่ใจได้ พวกเธอมีความเชื่อฝังใจว่าสักวันหนึ่งชาวอังคารจะต้องมา ความหดหู่ใจของชาวศุกร์นั้น มีสาเหตุมาจากความเหงาและอ้างว้าง ความเชื่อว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาคอยช่วยเหลือพวกเธอ ทำให้ความหดหู่ใจเลือนหายไป ผู้ชายส่วนมากไม่เคยรู้มาก่อนว่า ความรู้สึกที่มีใครสักคนคอยห่วงใยสำคัญกับเธอมากขนาดไหน ผู้หญิงจะมีความสุขเมื่อคิดว่าพวกเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อผู้หญิงไม่พอใจ อ่อนไหว สับสน เหน็ดเหนื่อย หรือสิ้นหวัง สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดก็คือเพื่อนสักคน เธอไม่ต้องการอยู่คนเดียว ความเห็นใจ ความเข้าใจ ความมีเหตุผล และความปรารถนา มีส่วนอย่างมากที่ทำให้เธอยอมรับแรงสนับสนุนจากเขา ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่เข้าใจความรู้สึกอันนี้ของฝ่ายหญิง เพราะสำหรับเขาแล้ว วิธีที่ดีที่สุดเมื่อเธอไม่พอใจก็คือปล่อยให้เธออยู่คนเดียว เนื่องจากนั่นเป็นวิธีที่ชาวอังคารปฏิบัติต่อกัน เพราะเขาคิดว่าถ้าอยู่ด้วยยิ่งทำให้แย่หนักเข้าไปอีก เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าความใกล้ชิด ความห่วงใย และการแบ่งปันความรู้สึกนั้นสำคัญมากต่อผู้หญิงมากขนาดไหน ถ้ามีใครร่วมรับฟังความทุกข์ของเธอ เธอจะรู้สึกสบายใจขึ้น ความสงสัย และหวาดวิตกจะหายไปทันที เธอจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เมื่อรู้ว่ายังมีคนที่รักเธออยู่โดยที่ไม่จำเป็นต้องแสวงหามัน เธอทำตัวตามสบายได้ เป็นฝ่ายให้น้อยลงสักนิด และเริ่มเป็นฝ่ายรับมากขึ้นอีกหน่อยได้ ก็เพราะนี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับอยู่แล้ว</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ </span><br />
<span style="color: #0b5394;">เมื่อไรที่เธอรู้ว่ายังมีคนที่รักเธออยู่
เธอจะทำตัวตามสบายได้มากขึ้น เป็นฝ่ายให้น้อยลงสักนิด
</span><br />
<span style="color: #0b5394;">และเริ่มเป็นฝ่ายรับมากขึ้นอีกหน่อยได้ ก็เพราะนี่เป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับอยู่แล้ว</span><br />
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">วิธีแก้ปัญหาของชาวอังคารและชาวศุกร์ เมื่อชาวอังคารพบปัญหา
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">เขาไม่ชอบพูดถึงปัญหาและไม่นำปัญหาของตัวเองไปกวนใจชาวอังคารคนอื่น ยกเว้นแต่แก้ด้วยตัวเองไม่ได้แล้วจึงจะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เมื่อเจอปัญหาเขาจะหลบอยู่ใน “ถ้ำ” คนเดียวเพื่อหาทางแก้ปัญหา ถ้าเขาหาคำตอบได้ เขาจะดีใจและออกมาจากถ้ำ คำว่า “ถ้ำ” เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายจะต้องเข้าไปอยู่ในถ้ำจริง ๆ สิ่งที่ผู้เขียนต้องการบอกก็คือ เวลาเกิดปัญหา ผู้ชายส่วนใหญ่จะเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่คนเดียว เช่น อยู่ในห้องทั้งวันโดยไม่ออกมาข้างนอก หรือไม่ก็ไม่ยอมสุงสิงกับใคร เปรียบเหมือนกับการอยู่ในถ้ำนั่นเอง ส่วนผู้หญิงนั้นตรงกันข้าม เมื่อมีปัญหาหรือเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง ผู้หญิงจะไม่มีทางอยู่คนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะการทำอย่างนั้นอาจทำให้เธออึดอัดใจได้ สำหรับผู้หญิงแล้ว เมื่อมีปัญหาเธอต้องการพูดหรือเล่าปัญหาให้คนที่เธอไว้ใจฟัง – ผู้เรียบเรียง ถ้าคิดเท่าไรก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เขาจะเลือกทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ลืมปัญหานั้น เช่น อ่านหนังสือพิมพ์หรือเล่นเกม การเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่นทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย ถ้าปัญหาใหญ่มาก เขาจะเบี่ยงเบนความสนใจไปหาเรื่องอะไรที่เสี่ยง ๆ เพื่อต้องการลืมปัญหาไว้ชั่วขณะ เช่น ขับรถแข่ง ไปปีนเขา หรือร่วมการแข่งขันรายการอะไรสักอย่าง </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ </span><br />
<span style="color: #0b5394;"> เพื่อความสบายใจ
ชาวอังคารจะเก็บตัวอยู่ในถ้ำ
เพื่อแก้ปัญหาด้วยตัวเอง</span><br />
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">เมื่อชาวศุกร์พบปัญหา เธอจะมองหาใครสักคนที่ไว้ใจได้และเล่าถึงปัญหาที่เจอในวันนั้นอย่างละเอียด เมื่อชาวศุกร์ได้ระบายความรู้สึกออกมา เธอจะรู้สึกดีขึ้นทันที นี่เป็นวิถีทางแก้ปัญหาของชาวศุกร์</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~</span><br />
<span style="color: #0b5394;"> เพื่อความสบายใจ ชาวศุกร์จะเข้าหากลุ่ม
และพูดถึงปัญหาต่าง ๆ อย่างเปิดเผย </span><br />
<span style="color: #0b5394;"> ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">บนดาวศุกร์ การเล่าปัญหาของตัวเองให้ผู้อื่นฟังถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักและความไว้ใจ
โดยไม่ถือว่าเป็นการสร้างภาระให้อีกฝ่ายหนึ่ง ชาวศุกร์ไม่อายที่จะบอกตัวเองมีปัญหา อัตตาของพวกเธอไม่ได้อยู่ที่ว่าตัวเองต้อง “เก่ง”
แต่ขึ้นอยู่กับสายสัมพันธ์ที่มีต่อกันมากกว่า พวกเธอแลกเปลี่ยนความทุกข์ ความสับสน ความสิ้นหวังและความท้อแท้ได้อย่างเปิดเผย
ชาวศุกร์จะรู้สึกดีขึ้นมากถ้ารู้ว่าตัวเองมีเพื่อนที่สามารถเล่าเรื่องอะไรก็ได้ ชาวอังคารรู้สึกดีมากเมื่อแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง
ความลับในเรื่องนี้ยังใช้ได้ผลจนถึงทุกวันนี้ ได้หลบเข้าถ้ำแล้วสบายใจ เมื่อผู้ชายพบกับปัญหาเขาจะเก็บตัวอยู่ในถ้ำของเขา
และทุ่มความสนใจทั้งหมดไปกับการแก้ปัญหา โดยปกติแล้ว เขาจะเลือกปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดหรือยากที่สุดขึ้นมาแก้ก่อน
บางครั้งผู้ชายหมกมุ่นอยู่กับปัญหาเสียจนลืมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรือความรับผิดชอบด้านอื่น ๆ ไปจนหมด
ในช่วงเวลาอย่างนี้ ผู้ชายจะมีพฤติกรรมในลักษณะที่เหินห่าง ขี้หลงขี้ลืม และเฉื่อยชา
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณคุยกับเขา เขาจะให้ความสนใจคุณเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลืออีก 95 เปอร์เซ็นต์หมดไปกับปัญหา
เนื่องจากการหมกมุ่นอยู่กับปัญหา ทำให้เขากลายเป็นคนหลงลืมง่าย ๆ ยิ่งปัญหาหนักเท่าไรเขายิ่งติดอยู่กับปัญหานั้นมากขึ้น
ทำให้เขาไม่มีเวลาที่จะมาสนใจความต้องการของผู้หญิงได้เลย แต่เมื่อไรที่เขาแก้ปัญหาได้เขาจะรู้สึกสบายใจและออกจากถ้ำของเขาทันที
และพร้อมที่จะกลับมาเป็นคนน่ารักได้อีกครั้ง แต่ถ้าเขายังหาคำตอบไม่ได้ เขาก็ออกมาจากถ้ำไม่ได้
เพื่อไม่ให้ติดอยู่ในถ้ำนานเกินไป เขาจะเลือกแก้ปัญหาที่ไม่ใหญ่มากนัก
เช่น อ่านหนังสือพิมพ์ ดูโทรทัศน์ ขับรถ ออกกำลังกาย ดูฟุตบอล เล่นกีฬา ฯลฯ หรือหาอะไรสักอย่างที่ใช้ความคิดเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ทำแทน
ซึ่งช่วยให้เขาลืมปัญหาได้ชั่วขณะและหลุดออกมาจากถ้ำได้ หลังจากนั้นค่อยกลับไปหาทางแก้ปัญหาเดิมใหม่อีกครั้ง
เราลองมาดูตัวอย่างหนึ่งให้ละเอียดสักหน่อย
เมื่อจิมพบกับปัญหาที่ยังหาทางออกไม่ได้ จิมจะหยิบหนังสือพิมพ์เล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน
การอ่านหนังสือพิมพ์ทำให้เขาเปลี่ยนจุดสนใจจากเรื่องของตัวเองมาเป็นเรื่องที่ปรากฏอยู่ในข่าวแทน (ซึ่งเขาไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง)
วิธีแบบนี้ทำให้เขาหลุดออกจากการติดอยู่กับปัญหาได้ และมีเวลาให้กับภรรยาและครอบครัวของเขาได้อีกครั้ง
ทอมดูฟุตบอลเพื่อผ่อนคลายความเครียด เขาเปลี่ยนจุดสนใจจากการแก้ปัญหาของตัวเองมาแก้ปัญหาให้ทีมที่เขาชอบแทน
เขารู้สึกว่าแก้ปัญหาเกมการแข่งขันได้ ถ้าชนะเขาก็ดีใจ ถ้าแพ้เขาก็เสียใจ แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม
อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาลืมปัญหาของตัวเองไปได้ชั่วขณะ สำหรับทอมและผู้ชายหลายคน การดูกีฬา ข่าว หรือภาพยนตร์
ถือเป็นการปลดปล่อยความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงได้ดีที่สุด
ผู้หญิงจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร เมื่อผู้ชายติดอยู่ในถ้ำ
เขาไม่มีปัญญาเหลือพอที่จะสนใจคนรอบข้างได้อีกต่อไป เป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงที่จะยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้
เพราะเธอไม่รู้ว่าปัญหาใหญ่ขนาดไหน ถ้าเขาจะเล่าให้เธอฟังบ้าง เธอคงจะชอบมากกว่านี้ แต่ผู้ชายไม่ยอมพูด
เธอจึงรู้สึกว่าเขาไม่ให้ความสำคัญ เธอรู้ว่าเขากำลังแก้ปัญหา แต่เธอตีความผิดที่คิดว่าการที่เขาไม่พูดกับเธอเนื่องจากเขาไม่สนใจตัวเธอ
ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าชาวอังคารจัดการกับปัญหาอย่างไร พวกเธอคิดว่าเขาจะพูดถึงปัญหาอย่างเปิดเผยเหมือนกับที่ชาวศุกร์ทำกัน
เมื่อผู้ชายติดอยู่ในถ้ำ (หรือยังแก้ปัญหาไม่ได้) ผู้หญิงโกรธที่เขาไม่ยอมบอกเธอ
เธอไม่พอใจเมื่อเห็นเขาอ่านหนังสือพิมพ์ หรือออกไปเล่นกีฬาโดยไม่สนใจเธอ
ความหวังที่จะเห็นผู้ชายที่ติดอยู่ในถ้ำกลายเป็นคนเปิดเผย กระฉับกระเฉงและน่ารักขึ้นมาทันที เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์
เหมือนๆ กับที่คาดหวังว่าผู้หญิงจะทำตัวสงบเยือกเย็นและเต็มไปด้วยเหตุผลได้ทันทีหลังจากหายโกรธแล้ว
ขอให้ผู้หญิงทั้งหลายอย่าได้หวังว่าผู้ชายจะทำตัวน่ารักกับผู้หญิงเสมอไป
และขอให้ผู้ชายทั้งหลายอย่าได้หวังว่าผู้หญิงจะเป็นคนที่เต็มไปด้วยเหตุผลตลอดเวลา
เมื่อชาวอังคารอยู่ในถ้ำ พวกเขามักลืมคิดไปว่าเพื่อนของเขาก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน
สัญชาตญาณบอกว่าให้เขาสนใจตัวเองก่อนที่จะสนใจเรื่องของคนอื่น
ผู้หญิงส่วนมากไม่ชอบและรู้สึกไม่พอใจที่เห็นผู้ชายมีนิสัยแบบนี้
เธออาจเรียกร้องขอให้เขาทำในสิ่งที่เธอต้องการ คล้าย ๆ กับว่าเธอกำลังเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมที่เธอควรได้รับ
เมื่อผู้หญิงรู้ว่าผู้ชายมาจากดาวอังคาร ปัญหาความเข้าใจผิดเช่นนี้ก็หมดไป
เธอจะเข้าใจว่าพฤติกรรมต่าง ๆ ของเขานั้นเกิดจากความพยายามที่จะแก้ปัญหาของเขาเอง มากกว่าเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกที่มีกับเธอ
แทนที่จะรู้สึกโกรธเขา เธอกลับพร้อมจะช่วยเหลือเขา ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายจะค่อย ๆ รู้สึกถึงความห่างเหินที่เขามีต่อเธอขณะที่อยู่ในถ้ำ
เมื่อผู้ชายรู้ว่าการอยู่ในถ้ำนาน ๆ ส่งผลให้ผู้หญิงรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งและไม่มีความสำคัญ เมื่อรู้ว่าผู้หญิงมาจากดาวศุกร์แล้ว
เขาจะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงได้ดีมากขึ้น </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> ต่อไปนี้เป็นความผิดพลาดใหญ่ ๆ 5 อย่างที่เกิดขึ้นเสมอ
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">1. เมื่อเธอพูดว่า “คุณไม่ฟังฉันเลย” เขาตอบว่า “หมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าผมไม่ฟัง ผมจำได้ทุกคำเลยว่าคุณพูดอะไรไปบ้าง”
เมื่อผู้ชายอยู่ในถ้ำ เขาจดจำสิ่งที่เธอพูดด้วยความจำเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผู้ชายคิดว่า ถ้าเขาตั้งใจฟังได้ 5 เปอร์เซ็นต์ ก็แสดงว่าเขาฟังอยู่ แต่เธอต้องการให้เขาตั้งใจฟัง 100 เปอร์เซ็นต์ </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> 2. เมื่อเธอพูดว่า “ฉันรู้สึกเหมือนไม่มีคุณอยู่ตรงนี้เลย” เขาตอบว่า “หมายความว่าอย่าง ไรที่บอกว่าผมไม่ได้อยู่ตรงนี้?
ก็ผมยืนอยู่ตรงนี้ คุณมองไม่เห็นเลยหรือ?”
เหตุผลก็คือ ถ้าเขายืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่ควรพูดคำนี้ออกมา แต่ถึงแม้ว่าร่างกายจะยืนอยู่ตรงนั้น เธอไม่รู้สึกว่าเขาอยู่ 100 เปอร์เซ็นต์
และนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการพูด
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">3. เมื่อเธอพูดว่า “คุณไม่เคยสนใจฉันเลย” เขาตอบว่า “ผมสนใจคุณมาตลอด ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าผมพยายามที่จะแก้ไขปัญหาอยู่”
เหตุผลเพราะเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับปัญหา ซึ่งถ้าหาคำตอบได้ก็จะเป็นประโยชน์กับเธอด้วยเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เธอต้องการความรักและเอาใจใส่จากเขาโดยตรง และนั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องการบอกจริง ๆ
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">4. เมื่อเธอพูดว่า “ฉันคิดว่า คุณไม่เคยเห็นความสำคัญของฉันเลย” เขาตอบว่า “บ้าที่สุด คุณเป็นคนสำคัญที่สุดเสมอ”
เหตุผลที่เขาคิดว่าเธอเข้าใจผิดก็เพราะเขากำลังแก้ปัญหาให้เธอ เขาไม่เฉลียวใจเลยสักนิดว่า
การที่เขาสนใจปัญหาใดปัญหาหนึ่งและลืมปัญหาอื่น ๆ นั้น สร้างความรำคาญให้คนรอบข้างมากขนาดไหน
และผู้หญิงเกือบทุกคนมักเก็บไปคิด โดยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">5. เมื่อเธอพูดว่า “คุณไร้ความรู้สึก สนใจแต่เรื่องของตัวเอง” เขาตอบว่า “แล้วมันผิดตรงไหน? คุณคิดหรือว่าผมจะแก้ปัญหานี้ให้คุณ?”
เหตุผลก็คือ เขารู้สึกว่าเธอกำลังกล่าวโทษและเรียกร้องจากเขามากเกินไป
เนื่องจากเขากำลังทำเรื่องสำคัญเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เขารู้สึกเธอไม่ให้ความสำคัญ แต่เขาก็ไม่สนใจความรู้สึกของเธอเช่นกัน
ผู้ชายส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่า พฤติกรรมของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปมาจากอบอุ่นเป็นดูห่างเหินได้รวดเร็วขนาดไหน
ขณะที่อยู่ในถ้ำ ผู้ชายส่วนใหญ่คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองจนไม่มีเวลาคิดถึงความรู้สึกของคนอื่นต่อความเฉยเมยของเขาเลย
ถ้าต้องการให้ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดี ผู้ชายและผู้หญิงต้องเขาใจซึ่งกันและกันมากขึ้นกว่านี้
เมื่อผู้ชายเริ่มไม่สนใจ ผู้หญิงส่วนใหญ่จะเก็บไปคิดมาก แต่ถ้าเธอรู้ว่าเขากำลังยุ่งอยู่กับการแก้ปัญหาแล้ว จะไม่รู้สึกเจ็บปวดมากนัก
</span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;">เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ผู้หญิงต้องการพูดให้ใครสักคนฟัง ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ชายต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ
เขาต้องเข้าใจว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะพูดถึงความรู้สึกที่ถูกทอดทิ้งและไม่มีใครสนใจได้ เหมือนกับเขาที่มีสิทธิ์ปลีกตัวไปอยู่ในถ้ำโดยไม่พูดอะไรเลย </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<span style="color: #0b5394;"> เครดิค อ้างอิงจาก หนังสือ : Men are from Mars, Woman are from Venus
: John Gray </span><br />
<span style="color: #0b5394;"><br /></span>
<a href="https://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-44800424470520288812012-08-15T11:33:00.000-07:002012-08-18T22:47:24.970-07:00สิงคโปร์ Singapore<span style="color: #3d85c6;">2011 November </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br /></span><span style="color: #3d85c6;">หลังจากว่างเว้นจากการเดินทางไปต่างประเทศพักใหญ่ ประจวบเหมาะกับกรุงเทพกำลังจะสำลักน้ำตาย และแล้วผมก็ได้รับคำชวนจากเพื่อนที่อายุมากกว่าคนนึง ให้ไปทำงานต่างประเทศกับพวกเขาอีกสามคนอีกรอบ ดินแดนที่หลายคนรู้จักในนามว่า “สิงคโปร์” </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br /></span><span style="color: #3d85c6;">…หลังจากรอคำตอบจากการยื่นเรื่องส่งเอกสารขออนุญาติทำงาน ซึ่งเรียกว่า work permit แล้ว (ใช้เวลาหลายวัน) ผมก็ได้รับคำตอบว่า โอเค ผ่าน สาเหตุที่ต้องรอคำตอบเพราะทางประเทศสิงคโปร์ เค้าเข้มงวดเรื่องคนต่างชาติเข้าไปทำงานในบ้านเมืองเค้าค่อนข้างสูงครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบอนุณาติของผมด้วย เรียกว่า performomg artist work permit อยากรู้คำตอบลองไปแปลเอานะครับ</span><span style="color: #3d85c6;">…. <span id="fullpost">แต่อยากบอกว่าขั้นตอนนั้นค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร อีกอย่างเอกสารที่ส่งกลับมานั้นก็เป็น application documents มีอายุ 15 วันคือหมายถึงต้องเอาไปยื่นเรื่องอีกครั้งนึงที่กรมแรงงานประเทศสิงคโปร์เรียกง่ายๆว่า เอกสารชั่วคราวครับ </span></span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">11 พฤศจิกายน 2011 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"> วันออกเดินทางครับมีการผิดพลาดเรื่องค่าระวางน้ำหนัก เห้อ….ผมอุตส่าห์เตือนแล้วเตือนอีกบอกให้ซื้อน้ำหนักเพิ่มมาด้วย จะไหวยังงัยละครับของผมคนเดียวก็ปาเข้าไป มากกว่า 40 กิโลกรัมแล้ว แต่ดันให้มาแค่ 15 กิกรัม (ให้มาทำแป๊ะไรเนี่ย..) หลังจากเจรจากับเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน (ground staff) ของสายการบิน Tiger Air ได้ความว่าต้องจ่ายเพิ่มกิโลกรัมละ 500 บาทครับ (งานงอกซะแล้ว…) ทำงัยดี…. หลังจากตกลงกันพักใหญ่พร้อมกับความใจดีของเหล่า ground staff (ขอปรบมือให้ดังๆๆๆ ) พวกผมจึงต้องแบ่งของถือขึ้นเครื่องครับอีรุงตุงนังเลยแหละ พร้อมกับจ่ายค่าน้ำหนักเพิ่มจากทั้งหมด 28000 บาท เหลือ 15500 บาทจากน้ำหนักสัมภาระทั้งหมด 4 คน ถึงแม้จะโชคดี แต่ก็หิ้วของขึ้นเครื่องเหงื่อแตกโฮกๆ ครับแถม gate ที่ผมขึ้นก็ไกลโครตเลย…เซ็งง</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br /></span><span style="color: #3d85c6;"> …สองชั่งโมงบนเครื่องผ่านไป เท้าสองข้างก็ได้สัมผัสสนามบิน ชางจี (chang gi) ประเทศสิงคโปร์ เดินลิ่วๆเข้าไปผ่าน ด่านตรวจคนเข้าเมืองพร้อมเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกสามคน แล้วเสียงตะโกนของเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์ เรียกพร้อมเดินเข้ามาหาผม แล้วสอบถามว่าผมถืออะไรเข้ามาด้วย ผมก็ตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษว่าเป็นอุปกรณ์การทำงาน เขาเลยเชิญผมเข้าไปในห้อง (งานงอก อีกรอบแล้ว) เค้าให้รอ สแกนลายนิ้วมือครับ ในขณะที่เพื่อนผมเดินผ่านด่าน ตรวจเข้าไปรอด้านในเล้วเรียบร้อย สิบนาทีผ่านไปไวเหมือนโกหก ทางเจ้าหน้าที่บอกกับเพื่อนของเขาอีกคนว่าผมโอเคแล้ว แล้วให้กลับไปเข้าแถวรอเช็คพาสปอร์ตพร้อมยื่นเอกสารที่เตรียมมา…หลังจากนั้นผมก็ผ่านด่านตรวจของสิงคโปร์ แล้วขึ้นรถที่ทางผู้ประกอบการจัดหาไว้เดินทางไปสู่ที่พัก </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br /></span><span style="color: #3d85c6;">…วันแรกที่เข้าที่พัก แหมคิดว่าจะไม่มีอะไร ….ชั่วครู่หลังจากยืนงงกับที่พักพร้อมกับคิดว่าที่เนี่ยนะ ผมรู้สึกว่ามีใครบางคนใช้มือโอบเอวของผม แต่ทว่าจริงๆแล้วมันไม่มีใครครับ ผมหันรีหันขวางมองรอบๆตัว ก็ไม่มีอะไรเลย….นึกในใจ….เอาน่า…คงไม่มีอะไรหรอก แต่ผมกวาดสายตามองรอบๆ มีตู้เสื้อผ้าหลายตู้แต่ว่าหลังตู้เนี่ยสิ มีศาลเพียงตาอยู่ด้านบนพร้อมเครื่องเส้นไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก ตลับแป้งแต่งหน้า ธูปเทียน โอ้ววว จัดเต็ม.. แถมข้างๆตู้ยังมีชุดจีนกี่เพ้าห้อยไว้อีกด้วย แล้วมันของใครล่ะ??? </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br /></span><span style="color: #3d85c6;">อาคารเก่าอยู่ชั้นสามคล้ายๆคอนโดห้องสวีทมีสี่ห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้องอาบน้ำ หนึ่งห้องครัวและห้องโถง (Living room) มีท่อทิ้งขยะใกล้ๆห้องครัว เคยได้ยินมาว่า ถ้าเป็นศาลเจ้าเขาจะเอาไว้ที่พื้นแล้วมีรูปตาแป๊ะแก่ๆ อยู่ข้างใน แต่ศาลเพียงตาที่ผมเห็นไม่มีอะไรด้านในเลยแต่ใครไม่รู้นำไปวางไว้หลังตู้ สภาพก็คงจะนานพอสมควร สังเกตุได้จากฝุ่นที่เกาะอยู่ </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">หลังจากเลิกงานกลับมานอน มีอยู่คืนหนึ่ง ผมครึ่งหลับครึ่งตื่น ผมเห็นผู้หญิงผิวขาวหน้าตาคล้ายคนจีน ผมยาว รูปร่างค่อนข้างสูงนอนกอดผมแล้วเธอก็เงยหน้ามองผมแล้วก็ยิ้มที่มุมปาก เธอกึ่งเปลือยครับ ทว่าทันใดนั้น เหอะๆ กำลังเคลิ้มผมก็สะดุ้งตื่นซะก่อน ก็ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกนะ คงฝันไปน่ะ </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br /></span><span style="color: #3d85c6;">หลายวันผ่านไปกับการเริ่มงาน ทั้งเพลียและปรับตัว ไปตรวจร่างกาย ไปยื่นเอกสารที่กรมแรงงานสิงคโปร์ (ไปหลายครั้งมาก) จนกระทั่งถึงเวลาพิมพ์ลายนิ้วมือ(thumbprint) เพื่อรอรับ work permit card (เป็นการ์ดแข็งสีเขียวอ่อนคล้ายบัตร ATM) </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">วันหนึ่งกำลังจะอาบน้ำไปทำงาน ขณะที่อยู่ในห้องน้ำรู้สึกว่ามีปอยผม เขี่ยที่หลังผม เห้อ…คิดในใจว่า…อีกแล้วหรือเนี่ย ผมหันกลับไปโดยเร็ว….ไม่มีอะไรเช่นเดิม ผ่านไปหลายวัน ก่อนผมไปรับการ์ด เจ้ากรรม…ผมทำพาสปอร์ตหาย ตายล่ะ…เพื่อนที่โน่นพาไปช่วยหาหลายที่เพราะก่อนหน้านั้นเค้าพาผมไปเที่ยว ตามหาหลายๆที่ไม่ยักกะเจอครับ </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">จนวันสุดท้ายก่อนไปกงศุลตามที่ผู้จัดการบอก ผมเลยไปกับเพื่อนไปที่สุดท้ายที่นึกได้ ก่อนไปเพื่อนคนไทยบอกว่า ลองไปไหว้ขอที่ศาลเพียงตาบนหลังตู้สิ ไม่แน่อาจจะเจอ ช่วยไม่ได้ครับ ความหลังสุดท้าย …ผมเลยทำตามที่เพื่อนคนไทยที่ทำงานด้วยกันบอก หลังจากนั้นก็ออกไปกับเพื่อนที่โน่นมุ่งหน้าตามล่าพาสปอร์ต ที่ร้านอาหารไทยที่นึงซึ่งเราไปกินข้าววันนั้นหลังจากที่ไปเที่ยวผับกันก่อนรู้ว่าพาสปอร์ตหาย</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"> …ไม่อยากจะเชื่อเลย เจอครับ…โชคดีเป็นบ้าเลยไม่งั้นคงซวยแน่ๆ พนักงานเขาเก็บไว้ให้ เค้าว่ามันหล่นอยู่ เค้ากะว่าเดี๋ยวเจ้าของ (ผมเอง)คงมาตามคืน ผมกลับมาซื้อเครื่องเส้นไปวางไว้ที่ศาลนั่นเลยแหละ คงต้องแบบนี้แล้วล่ะ อยากจะบอกว่าที่เจอๆกันน่ะไม่ใช่ผมคนเดียวนะครับ โดนกันถ้วนหน้าเลย แล้วแต่ใครเจอแบบไหน บ้างก็เห็นมายืนปลายเตียง บ้างก็มาร้องเพลงให้ฟังข้างๆหู บ้างก็โดนดึงแข้งดึงขา ไม่เว้นแม้แต่กลางวี่กลางวัน จนชินเหมือนเรื่องปกติ คนนี้โดนที คนนั้นโดนที หลากหลายมากเล่าไม่หมด ส่วนรอบหลังผมนั้งเล่นอยู่กับเพื่อนๆ ตอนเที่ยงๆ กลางห้องโถง บางคนก็ทานอาหารอยู่ ขอโทษ…ประตูห้องนอนห้องนึงซึ่งปิดอยู่แบะมีเพื่อนนอนหลับอยู่ด้านใน ค่อยๆเปิดออกเอง ทั้งที่มันล็อคอยู่ เพื่อนที่นั่งทานอาหารอยู่ถึงกลับตาค้างเลย เพื่อนคนนึงเดินไปปิดหลังจากนั้นราวครึ่งชั่งโมง พวกเรากำลังนั่งวิพากวิจารณ์อยู่ เสียงประตูห้องเดิมเปิดออกอีกครั้ง โอ้ววว …หัวใจจะวาย แต่ครั้งนี้กลับเป็นเพื่อนผมเดินเมาขี้ตาออกมา ถามผมว่า เมื่อกี้ใครเรียก… ผมบอกไม่มีใครเรียก…แต่เค้าบอกว่า เมื่อกี้มีคนเรียกให้ออกมาทานอาหารด้วยกัน….!!! </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ด้วยความสงสัยเลยพยายามเสาะหาข้อมูลว่าเหตุการณ์เหล่านี้มาจากอะไรกันแน่ และแล้วก็ได้ความว่า เธอเป็นผู้หญิงจีนเป็นนักร้องมาร้องเพลงที่นี่แล้วก็เสียชีวิตที่พักแห่งนี้นานมาแล้ว</span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">ท้ายสุดผมโดนอีกรอบ วันนั้นผมออกจากที่พักคนสุดท้าย ซึ่งก็แน่นอนผมต้องเป็นคนล็อคประตู ผมสังเกตุว่าทุกห้องปิดประตูเรียบร้อยเลยเดินหันหลังออกแล้วเอื้ยมมือไปปิดสวิทช์ไฟซื่งอยู่ใกล้ไประตูทางออก ทันใดนั้น...เสียงปืดประตูดัง ...โครม..จากด้านในดังอีกครั้ง ทั้งที่ไม่มีใครอยู่เพราะผมเป็นคนท้ายสุด มือผมที่จับลูกบิดซึ่งกำลังจะปิดประตูใหญ่ด้านหน้า ผมดันให้มันเปิดอีกรอบพร้อมยื่นศรีษะเข้าไปชำเรืองดู แต่ทว่าสิ่งที่เห็นคือประตูทุกห้องยังปิดสนิท...อึ๋ยยย..ผมรีบปิดเอื้อมมือไปปิดไฟแล้วดึงลูกบิดจะปิดประตูใหญ่ ขณะนั้นรู้สึกได้ว่ามีแรงผล้กจากด้านในผลักประตูให้ปิดโดยที่มือผมบังไม่ได้ออกแรงดึง ทั้งๆที่ฝนก็ไม่ตกแล้วก็ไม่มีลมพัดซักแอะ</span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">หลังจากผมเลิกงานกลับมาผมพยายามเช็คประตูทุกบานว่ามันปิดแล้วจะเสียงดังไหม แต่ว่ามันไม่ดังน่ะมันไม่ดังขนาดเท่าที่ได้ยิน แถมประตูใหญ่ก็ไม่มีแรงดันมากขนาดที่ผมรู้สึกเหมือนตอนก่อนออกไป</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ก็เป็นอันว่า...ละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วกันครับ</span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">… หลังจากนั้นผมก็ไปรับ work permit card ใช้ถือแทน passport ใช้ส่งเงิน ใช้ซื้อ sim card โทรศัพท์ ใช้ซื้อบัตรเติมเงิน ซื้อบัตร MRT( ใช้ได้ทั้งรถเมลและแท็กซี่ในบัตรเดียว) คือใช้แสดงให้พนักงานดูน่ะครับแล้วเขาจะสแกนโค๊ดน่ะเพราะเราเป็นต่างชาติ เราหันมาดูส่วนอื่นของสิงคโปร์กันบ้าง สิงคโปร์ เป็นประเทศที่น่าอยู่ แต่ค่าครองชีพแพงไปหน่อย ใช้เงินดอลล่าห์สิงคโปร์ (SGD) อัตราแลกเปลื่ยน 1 ดอลล่าห์ ประมาณ 24 บาทแล้วแต่ค่าเงินที่ขึ้นลง สะอาดใช้ได้เลย ถนนไม่มีฝุ่น แต่ที่ๆไม่สะอาดก็มีนะ หนูวิ่งกันให้คลั่กตัวเกือบเท่าแขนแน่ะ ภาษาที่ใช้ คือ ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีนกลาง ฮกเกี้ยน มาลายู </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เป็นระเบียบมากข้ามถนนต้องกดสัณญาณไฟให้รถหยุด ไม่งั้นโดนจับเสียค่าปรับ 300 SGD (ลองคำนวนเอานะครับ) ที้งขยะลงพื้นปรับ 300 SGD,สูบบุหรี่ไม่เสียภาษี(คือทุกซองและทุกมวนจะมีตัวหนังสือบางๆติดอยู่แสดงถึงการเสียภาษีแล้ว)ปรับมวนละ 300 SGD,ต้องคดียาเสพติดและก่อเหตุกระทำชำเลาผู้หญิง โทษสถานเดียว คือ ประหารชีวิต (โหดโฮกๆ..แต่ก็ดีนะข้อนี้) </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">หลบหนี work permit คือได้การ์ดแล้วหนีหายหรือหนีไปทำงานที่อื่น ทั้งจำและปรับ 2000 SGD,ไม่มีใบอนุญาติทำงาน(ใบอนุญาติมีหลายประเภทครับขอบอก) จับส่งกลับประเทศภูมิลำเนาแถมติด backlist ห้ามเข้าประเทศสองปีเท่าที่จำได้ </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เดินทางสะดวกรถเมลเยอะหยอดเหรียญครับ ติดแอร์ทุกคัน แท็กซี่น้อยไม่เหมือนเมืองไทย มีรถไฟฟ้า MRT สถาปัตยกรรมตามอาคารเป็นแบบโมเดิลมาก อาคารรูปทรงเลขาขณิต แปลกๆก็แยะ มีคาสิโน ที่อ่าว มารีน่าเบย์ แน่นอนสิ่งที่ไม่ควรพลาดที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ กับรูปปั้นรูปสิงโตที่มีหางเหมือนปลา (Merlion) และรวมไปถึง universal studio singapore เจ๋งสุดๆในเอเชียค่าเข้าคนละ 1700 บาท แล้วก็ชิงช้ายักษ์ singapore flyer ค่าขึ้นคนละ 700 บาทต่อคนขึ้นได้ 25 คนต่อหนึ่งกระเช้า แถมติดแอร์ด้วยครับ ดูวิวรอบสวยมายกเว้นทะเล ที่เต็มไปด้วยเรือส่งสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง simlim,mustafa ถูกและเยอะมากโดยเฉพาะช้อกโกแลต และสุดท้ายสนามฟุตบอลลอยน้ำ ผู้คนที่นี่ส่วนใหญ่ร้อยละ 90% ใช้มือถือ iphone </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">หลายคนอาจอยากรู้ว่า ลอดช่อง สิงคโปร์ มีจริงไหม ขอตอบว่ามีครับ แต่มันจะสีเขียวและสั้นๆเป็นตัวๆไม่นิ่มมากนักกินกับเม็ดบัวและน้ำกะทิ อีกอย่างนึงที่ขึ้นชื่อคือ ลักซ่า(Laksa)คล้ายขนมจีนบ้านเราแต่รสชาติไม่เหมือนะเส้นก็ไม่เหมือนคล้ายๆ ราเม็งน่ะ </span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">ร่ายมาเยอะแระ.. น่าเสียดายผมไปอยู่แค่สามเดือนครึ่งจากกำหนดสัญญาหกเดือน ก็ต้องกลับเพราะสถานประกอบการจะปิดปรับปรุง เลยต้องขอ cancel work permit กลับไทยก่อนแถมต้องพักอีกหนึ่งปีจึงจะยื่นเอกสารเข้าได้ใหม่ตามกฏหมายใหม่ของ MOM singapore.(แต่ได้ยินมาว่าจะเปลื่ยนกฏหมายข้อนี้ใหม่อีกรอบเร็วๆนี้)</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">...เจอกันใหม่ครั้งหน้าครับ เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟัง กับเรื่องราวใน มาเลเซีย</span><br />
<br />
<center>
<a href="http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>
ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-20908795315943163912011-02-27T03:29:00.000-08:002011-02-27T03:29:58.116-08:00วิธีเสียบปลั๊ก Notebook ที่ถูกต้อง<span style="color: #3d85c6;">เรื่องนี้เป็นทิปสั้นๆ แต่..ทิปสั้นๆ นี้ ผมเชื่อว่ามีใครหลายยคนที่ไม่เคยรู้มาก่อน ประมาณว่า จริงเหรอ? ใช่เหรอ?</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ในช่วงแรกๆ ที่ผมใช้โน้ตบุ๊กก็อาการเดียวกับหลายๆ ท่าน เวลาจะเสียบปลั๊กก็เสียบตัวอะแดปเตอร์เข้ากับตัวเครื่องก่อน (จริงๆ มันน่าจะถูกนะ) แล้วก็เอาปลั๊กอีกด้านไปเสียบกับเต้ารับของที่บ้าน หรือที่ทำงาน โดยหลักความเป็นจริงแล้ว มันจะควรจะทำแบบนี้ใช่มั้ย?</span><br />
<span id="fullpost" style="color: #3d85c6;">คิดว่าหลายคนคิดเหมือนผม ปัญหาที่ผมเจอเมื่อทำแบบนี้กับโน้ตบุ๊กแทบทุกรุ่นที่ผ่านมา ก็คือมันมีไฟแลปออกมาจากตัวปลั๊ก เหมือนเกิดการสปาร์คขึ้น เสียบกี่ครั้งก็เกิดอาการแบบนี้ จนพาลคิดไปว่าพวกอะแดปเตอร์โน้ตบุ๊กมันไม่ค่อยดีมั้ง ผมก็หาวิธีแก้ไขบ้าง<br />
<br />
เพื่อนหลายคนใช้วิธีเด็ดกว่านี้ครับ คือซื้อปลั๊กที่มีสวิทซ์เปิดปิดมาเลย วิธีการที่เขาทำก็คือ เสียบปลั๊กทุกๆ อย่างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยเปิดสวิทซ์ที่ปลั๊ก เอ้ออ.. ไอเดียดีเนาะว่ามั้ย แต่จนแล้วจนรอด ผมเอ๊ะใจขึ้นมา เลยเปิดคู่มือโน้ตบุ๊กที่ผมเพิ่งได้มาใหม่ดู นั่งอ่านสักพัก ก็ถึง บ้างอ้อ จนได้ว่า สิ่งที่เราทำมานั้น ไม่ถูกต้องเลยครับ<br />
<br />
มิน่า เสียบยี่ห้อไหน ก็ไฟแลบตะแลบแป๊บหมด.. พาลเอาใจหายว่าไฟจะช็อตได้ <br />
<br />
ต่อไปนี้ตั้งใจอ่านให้ดีดีนะครับ <br />
ในคู่มือเขาบอกไว้ชัดเจนเลยครับว่า วิธีการเสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ของโน้ตบุ๊ก ที่ถูกต้องก็คือ ให้เราเสียบปลั๊กเข้ากับเต้ารับที่บ้านหรือที่ทำงานก่อนครับ จากนั้นค่อยเอาปลายอีกด้านที่เหลือมาเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊ก อันนี้คือวิธีที่ถูกต้อง <br />
<br />
ผมเลยลองดูซะเลยครับ ปรากฏว่าอาการไฟแลบหรืออาการสปาร์คนั้นไม่มีเกิดขึ้นเลย โอ้! นี่แหละหนาาา..นิสัยไม่อ่านคู่มือซะก่อน หลังจากนั้นมาผมก็พยายามแนะนำเพื่อนๆ ทุกคนที่เกิดอาการนี้ทั้งหมด ทุกรายแฮปปี้ดีแทคมากๆ ผมเชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบครับ ใครที่ทราบแล้วก็ฝากบอกต่อเพื่อนๆ ด้วยนะครับ จะได้เสียบปลั๊กอะแดปเตอร์ได้ถูกต้องเสียที ใครใช้โน้ตบุ๊กอยู่ตอนนี้จะลองทำดูก็ได้นะครับ<br />
<br />
ขอเพิ่มเติมด้วยว่า ใช้วิธีเดียวกันนี้กับ ทั้งมือถือ และ PDA ด้วย</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-66663840548681437492011-02-27T03:10:00.000-08:002011-02-27T03:10:28.864-08:00คนเราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ<span style="color: #3d85c6;">มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ</span><span id="fullpost" style="color: #3d85c6;"> เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น<br />
ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา<br />
เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู<br />
เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า<br />
หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต<br />
ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย<br />
ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้<br />
ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย<br />
เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!<br />
<br />
เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า<br />
ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง<br />
สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ<br />
เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น<br />
หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ<br />
ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด<br />
หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ<br />
ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ<br />
ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน<br />
เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป<br />
กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล<br />
<br />
ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา<br />
ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น<br />
เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด<br />
เวลาผ่านไปสักครู่ มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา<br />
เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว<br />
ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น<br />
เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป<br />
พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา<br />
เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ<br />
ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด<br />
เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา<br />
เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร<br />
จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป<br />
<br />
จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น<br />
และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ<br />
พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2<br />
แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก<br />
<br />
ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม<br />
ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ<br />
ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ<br />
จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน<br />
<br />
เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก<br />
หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว<br />
ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด<br />
<br />
^_^ คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง ,<br />
ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-14143438585489788982011-02-27T03:05:00.000-08:002011-02-27T03:05:59.987-08:003×8=23 ทำไมหนอ ?<span style="color: #3d85c6;">เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ มีอยู่วันหนึ่ง เอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาด เห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้า จึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า ได้ยินลุกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">“3×8 ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย 24 เหรียญล่ะ!” </span><br />
<span id="fullpost" style="color: #3d85c6;">เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า <br />
<br />
“พี่ชาย 3×8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก” <br />
<br />
คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ” <br />
<br />
เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?” <br />
<br />
คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?” <br />
<br />
เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)” <br />
<br />
ทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3×8ได้ 23 ถูกต้องแล้ว เอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย” <br />
<br />
เอี๋ยนหุย ไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น<br />
ชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป <br />
<br />
ต่อคำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป <br />
<br />
พอรุ่งขึ้น เอี๋ยนหุยจึงเข้าไปขอลาอาจารย์กลับบ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่าที่บ้านเกิดเรื่องราว ต้องรีบกลับไปจัดการ ขงจื้อรู้ว่าเอี๋ยนหุยคิดอะไรอยู่ ก็ไม่ได้สอบถามมากความ อนุญาตให้เอี๋ยนหุยกลับบ้านได้ ก่อนที่เอี๋ยนหุยจะออกเดินทาง ได้เข้าไปกราบลาขงจื้อ ขงจื้อกล่าวอวยพรและให้รีบกลับมาหากเสร็จกิจธุระแล้ว <br />
<br />
พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับว่า “อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” <br />
<br />
เอี๋ยนหุยคำนับพร้อมกล่าวว่า “ศิษย์จะจำใส่ใจ” แล้วลาอาจารย์ออกเดินทาง <br />
<br />
เมื่อออกเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง เกิดพายุลมแรงสายฟ้าแลบแปลบ เอี๋ยนหุยคิดว่าต้องเกิดพายุลมฝนเป็นแน่ จึงเร่งฝีเท้าเพื่อจะเข้าไปอาศัยอยู่ไต้ต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ฉุกคิดถึงคำกำชับของท่านอาจารย์ที่ว่า “อย่าแฝงเร้นกาย ใต้ต้นไม้ใหญ่ อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” <br />
<br />
เราเองก็ติดตามท่านอาจารย์มาเป็นเวลานาน ลองเชื่ออาจารย์ดูอีกสักครั้ง คิดได้ดังนั้น<br />
จึงเดินออกจากต้นไม้ใหญ่ ในขณะที่เอี๋ยนหุยเดินไปได้ไม่ไกลนัก บัดดล สายฟ้าก็ผ่าต้นไม้ใหญ่นั้นล้มลงมาให้เห็นต่อหน้าต่อตา เอี๋ยนหุยตะลึงพรึงเพริด คำกล่าวของพระอาจารย์ประโยคแรกเป็นจริงแล้ว หรือตัวเราจะฆ่าใครโดยไม่รู้สาเหตุ? <br />
<br />
เอี๋ยนหุยจึงรีบเดินทางกลับ กว่าจะถึงบ้านก็ดึกแล้ว แต่ไม่กล้าปลุกคนในบ้าน เลยใช้ดาบที่นำติดตัว<br />
มาค่อยๆเดาะดาลประตูห้องของภรรยา เมื่อเอี๋ยนหุยคลำไปที่เตียงนอน ก็ต้องตกใจ ทำไมมีคนนอนอยู่บนเตียงสองคน! เอี๋ยนหุยโมโหเป็นอย่างยิ่ง จึงหยิบดาบขึ้นมาหมายปลิดชีพผู้ที่นอนอยู่บนเตียง<br />
เสียงกำชับของอาจารย์ก็ดังขึ้นมา “อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง” <br />
<br />
เมื่อเขาจุดตะเกียง จึงได้เห็นว่า คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนหนึ่งคือน้องสาวของเขาเอง <br />
<br />
พอฟ้าส่าง เอี๋ยนหุยก็รีบกลับสำนัก เมื่อพบหน้าขงจื้อจึงรีบคุกเข่ากราบอาจารย์และกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ คำกำชับของท่านได้ช่วยชีวิตของศิษย์ ภรรยาและน้องสาวไว้ ทำไมท่านจึงรู้เหมือนตาเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับศิษย์บ้าง?” <br />
<br />
ขงจื้อพยุงเอี๋ยนหุยให้ลุกขึ้น และกล่าวว่า “เมื่อวานอากาศไม่ค่อยสู้ดีนัก น่าจะมีฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแน่ จึงเตือนเธอว่า อย่าแฝงเร้นกายใต้ต้นไม้ใหญ่ และเมื่อวาน เธอจากไปด้วยโทสะ แถมยังพกดาบติดตัวไปด้วย อาจารย์จึ้งเตือนเธอว่า อย่าฆ่าผู้ใดหากไม่ชัดแจ้ง ” <br />
<br />
เอี๋ยนหุยโค้งคำนับ “ท่านอาจารย์คาดการดังเทวดา ศิษย์รู้สึกเคารพเลื่อมใสท่านเหลือเกิน” <br />
<br />
ขงจื้อจึงตักเดือนเอี๋ยนหุยว่า “อาจารย์ว่าที่เธอขอลากลับบ้านนั้นเป็นการโกหก ที่จริงแล้วเธอคิดว่า<br />
อาจารย์แก่แล้ว ความคิดเลอะเลือน ไม่อยากศึกษากับอาจารย์อีกแล้ว เธอลองคิดดูสิ อาจารย์บอกว่า 3×8 ได้ 23 เธอแพ้ ก็เพียงแค่ถอดหมวก <br />
<br />
หากอาจารย์บอกว่า 3×8 ได้ 24 เขาแพ้ นั่นหมายถึงชีวิตของคนๆหนึ่ง เธอคิดว่าหมวกหรือชีวิตสำคัญล่ะ? ” <br />
<br />
เอี๋ยนหุยกระจ่างในฉับพลัน คุกเข่าต่อหน้าขงจื้อ แล้วกล่าวว่า “ท่านอาจารย์เห็นคุณธรรมเป็นสำคัญ โดยไม่เห็นแก่เรื่องถูกผิดเล็กๆน้อยๆ ศิษย์คิดว่าอาจารย์แก่ชราจึงเลอะเลือน ศิษย์เสียใจเป็นที่สุด” <br />
<br />
จากนั้นเป็นต้นไป ไม่ว่าขงจื้อจะเดินทางไปยังแห่งหนตำบลใด เอี๋ยนหุยติดตามไม่เคยห่างกาย <br />
<br />
จากตำนานเรื่องเล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเพลงๆหนึ่งของอิวเค่อหลี่หลิน (นักร้องดูโอของไต้หวัน) ที่ร้องว่า “หากสูญเสียเธอไป ต่อให้เอาชนะทั้งโลกได้แล้วจะยังไง? เช่นกัน บางครั้งคุณอาจเอาชนะคนอื่นด้วยเหตุผลของคุณ แต่อาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไป ” <br />
<br />
เรื่องราวต่างๆ แบ่งเป็นหนักเบารีบช้า อย่าเป็นเพราะต้องการเอาชนะให้ได้ แล้วทำให้เสียใจไปตลอดชีวิต <br />
<br />
เรื่องราวมากมายที่ไม่ควรทะเลาะกัน ถอยหนึ่งก้าวทะเลกว้างฟ้างาม <br />
<br />
ทะเลาะ กับลูกค้า ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหม่ คุณก็จะรู้สึก) <br />
<br />
ทะเลาะกับเถ้าแก่ ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (วันที่ตรวจผลงานปลายปีมาถึง คุณก็จะรู้สึก) <br />
<br />
ทะเลาะกับภรรยา ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เธอไม่สนใจคุณ คุณก็หากับข้าวกินเองละกัน) <br />
<br />
ทะเลาะกับเพื่อน ต่อให้ชนะ ก็แพ้อยู่ดี (เคลียร์ไม่ได้ คุณอาจจะเสียเพื่อนไปเลย) <br />
<br />
ใบชา เกิดสีสวยและกลิ่นหอมน่าลิ้มลองได้ ก็เพราะโดนน้ำร้อนลวก <br />
<br />
ชีวิตของคนเราก็เช่นเดียวกัน เพราะเผชิญกับอุปสรรคครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเหลือไว้ซึ่งเรื่องราวเป็นตำนานให้ได้เล่าขานน่าตามติด <br />
<br />
ผู้ที่รู้สำนึกคุณอยู่เสมอ จึงเป็นผู้มีวาสนามากที่สุด <br />
<br />
</span><br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-14013935210284012312011-02-27T02:45:00.000-08:002011-02-27T02:45:41.519-08:00สารอาหารที่หัวใจเรียกร้อง<span style="color: #3d85c6;">ลองมาดูกันว่าหัวใจของคุณต้องการอะไรบ้าง</span><br />
<br />
<span id="fullpost"><span style="color: #3d85c6;">บล็อกโคลี่<br />
เป็นที่รู้กันว่าอุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ แคลเซี่ยม วิตามินอี วิตามินบี2 และมีวิตามินซีสูงมาก (ในปริมาณที่เท่ากันบล็อกโคลี่ มีวิตามินซีสูงกว่าส้มอีกนะ) ที่สำคัญมีธาตุเหล็กและสาร sulphoraphane ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และปกป้องหัวใจจากความดันโลหิตสูง แถมท้ายด้วยแคโรทีนอยส์ และ indoles ช่วยลดการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง<br />
<br />
แบล็คเบอร์รี่ & แบล็คเคอร์เรนท์<br />
แบล็คเบอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามินอี ที่ช่วยปกป้องหลอดเลือดแดงจากสารอนุมูลอิสระ และยังมีไฟเบอร์ในรูปแบบที่ช่วยลดการสะสมของคลอเรสเตอรอลในเนื้อเยื่อ ส่วนแบล็คเคอร์เรนท์นั้น เป็นหนึ่งในอาหารที่มีวิตามินซีมากที่สุด และเจ้าวิตามินซีนี้เองที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจ<br />
<br />
มะเขือเทศสีแดง<br />
นอกจากจะทานแล้วผิวสวย ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้นที่ชื่อไลโคปีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ มีวิตามินซี วิตามินอี ฟลาโวนอยส์ และโพแทสเซี่ยมที่ช่วยปรับสมดุลกระแสเลือด<br />
<br />
ฟักทอง<br />
มีสารเบต้าแคโรทีนล้นเหลือ และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอเมื่อเข้าสู่ร่างกาย สารเบต้าแคโรทีนช่วยปกป้องการทำลายเนื้อเยื่อจากสารอนุมูลอิสระซึ่งอาจเป็น สาเหตุหนึ่งของโรคหัวใจ มะเร็ง และการแก่ก่อนวัย!<br />
<br />
ทับทิม<br />
งานวิจัยของฝรั่งเขาว่าดื่มน้ำทับทิมวันละแก้วช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรค หัวใจ ลดความดันเลือด และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิระในเลือดด้วย<br />
<br />
นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ดีต่อหัวใจอีกมากมาย เช่น กระเทียม มะเขือม่วง ถั่วเหลือง เมล็ดทานตะวัน ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นพืชผักธรรมดาที่หาได้ทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสด</span><br />
<br />
</span><br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-55559349585830328182011-02-27T02:26:00.000-08:002011-02-27T02:26:06.717-08:0010 เคล็ดลับ … หลับสบาย<span style="color: #3d85c6;">9 Checks, Are You A Sleepless Society?</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ลองมาเช็กดูกันดีกว่าว่าวันนี้คุณมีอาการเข้าใกล้วงจรนอนไม่หลับแค่ไหน…คุณมีอาการแบบนี้หรือเปล่า ?</span><br />
<span id="fullpost"><span style="color: #3d85c6;">• หลับตานานแล้ว แต่สมองยังไม่หยุดคิด<br />
<br />
• มักรู้สึกตัวระหว่างนอนหลับเป็นระยะๆ<br />
<br />
• ระหว่างหลับรู้สึกว่าสมองยังคิดและกังวล<br />
<br />
• ไม่อยากตื่นทั้งที่รู้สึกว่านอนมานานแล้ว<br />
<br />
• ความคิดตื้อตันไม่ทันใจ<br />
<br />
• ง่วงนอนระหว่างวัน<br />
<br />
• รู้สึกซึมเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุ<br />
<br />
• ปวดหัว และอ่อนเพลียง่าย<br />
<br />
• ตื่นด้วยความงัวเงียไม่แจ่มใส แม้จะอาบน้ำและแปรงฟัน<br />
<br />
…………………………………………….<br />
<br />
10 Ways to Sleep Well<br />
<br />
ใช้ชีวิตเปลี่ยนแนว เพื่อการนอนหลับที่เป็นสุขและหมดทุกข์เรื่องเครียดกังวล กับ 10 คำแนะนำเหล่านี้<br />
<br />
1. เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และตื่น 6 โมงเช้า เพราะนี่คือช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการพักผ่อนร่างกาย<br />
<br />
2. สะสาง วางแผนสิ่งที่กังวลที่จะทำในวันต่อไปให้เรียบร้อยเพื่อลดอาการวิตกจริต และคิดซ้ำซาก<br />
<br />
3. บอกกับตัวเองว่าการเครียดกังวล และใช้สมองในช่วงที่ต้องนอนหลับนั้นเปล่าประโยชน์ เนื่องจากสติ สัมปชัญญะ และความอ่อนล้าของร่างกายคืออุปสรรค ดังนั้น นอนหลับให้สนิทแล้วตื่นมาคิดอย่างแจ่มใสย่อมให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า <br />
<br />
4. ถ้าคุณนอนหลับยาก ควรออกกำลังกายในช่วงเย็น หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน แต่อย่าทำใกล้เวลานอน<br />
<br />
5. ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส แล้วจะหลับง่ายสบายบอดี้<br />
<br />
6. เสริมเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่สมดุล จะนอนหลับลึกได้ต่อเนื่อง<br />
<br />
7. ความมืดมิดและไร้เสียง คือเคล็ดลับที่จะทำให้หลับได้สนิทและยาวนาน<br />
<br />
8. ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของกรด อะมิโน Tryptophan จากโปรตีน อย่างธัญพืช หรือเครื่องดื่ม Whole Grains ก่อนนอน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสาร Niacin จากวิตามินบี 5 ทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลาย และง่วงนอนง่ายขึ้น<br />
<br />
9. สร้างกิจวัตรใหม่ด้วยการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ลองทำแค่ 1 อาทิตย์ติดต่อกัน ร่างกายก็คุ้นเคยแล้ว<br />
<br />
10. หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และช็อกโกแลตระหว่างวัน เพราะกาเฟอีนที่ผสมอยู่จะทำให้ร่างกายตื่นตัว<br />
<br />
สมองคืออาวุธที่จะมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อถูกนำมาใช้ในเวลาที่แจ่มใสที่สุด ดังนั้น ถ้าใครยิ่งต้องการความก้าวหน้า และความเฉียบแหลม<br />
จึงยิ่งต้องบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ<br />
นั่นคือการรู้จัก … ใช้เมื่อพร้อมถึงขีดสุด และหยุดดูแลเมื่อเต็มล้า</span><br />
</span><br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-42589170674690192552011-02-27T02:07:00.000-08:002011-02-27T03:18:51.605-08:00ทำไมผู้ชายชอบเงียบหาย ทำไมผู้หญิงชอบพูด<span style="color: #3d85c6;">เรื่องนี้เป็นเรื่องของความแตกต่างระหว่างชาย-หญิง</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">แรกๆก็เฉยๆครับ ไม่ได้คิดว่าจะมีประโยชน์อะไรนัก </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">แต่พอมานั่งคิด ทบทวน ทำความเข้าใจและยอมรับความแตกต่างในเรื่องนี้ได้</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ผมพบว่า “ทั้งชายและหญิงจะก้าวไปด้วยกัน เสริมสร้างกันได้มากเลยครับ</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ไม่ว่าจะเป็นคู่รัก สามีภรรยา คนในครอบครัว เพื่อน เพื่อนร่วมงาน…” </span><br />
<span style="color: #3d85c6;">- – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - </span><br />
<span id="fullpost" style="color: #3d85c6;">ทำไมผู้ชายชอบเก็บตัวในถ้ำ <br />
ผู้ชายชอบเข้าไปอยู่ในถ้ำหรือเก็บตัวเงียบด้วยเหตุผลหลายประการดังนี้ <br />
1. เขาต้องการเวลาคิดเกี่ยวกับปัญหาและหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ <br />
2. เขายังไม่รู้คำตอบหรือทางแก้ปัญหา <br />
ผู้ชายไม่ได้ถูกสอนให้พูดว่า<br />
“แย่จัง ผมยังหาคำตอบไม่ได้<br />
ผมต้องเข้าไปอยู่ในถ้ำของผมและหาคำตอบให้ได้” <br />
ผู้ชายคนอื่นจะเข้าใจได้ว่า<br />
เขากำลังทำอะไรเมื่อเขาเก็บตัวเงียบ <br />
3. เขารู้สึกหัวเสียหรือมีความเครียด ในช่วงเวลาอย่างนี้<br />
เขาต้องการอยู่คนเดียวและทำใจให้สงบเพื่อควบคุมตัวเองให้ได้ <br />
เขาไม่ต้องการที่จะทำหรือพูดอะไรที่อาจทำให้ต้องเสียใจ <br />
4. เขาจำเป็นต้องหาตัวเองให้พบ <br />
เหตุผลข้อที่สี่กลายเป็นเรื่องสำคัญมากในหลายกรณี<br />
เช่น ในกรณีที่ผู้ชายกำลังตกอยู่ในความรัก<br />
และเมื่อพวกเขารู้สึกสูญเสียและลืมตัวเอง <br />
พวกเขารู้สึกว่าการอยู่ใกล้ชิดมากไปทำให้เขาเสียอำนาจภายในตัวเอง <br />
พวกเขาต้องควบคุมตัวเองให้ได้ว่าจะอยู่ใกล้ได้มากขนาดไหน <br />
เมื่อใดก็ตามที่เขาเข้าใกล้มากเกินไปจนลืมตัวเอง<br />
กระดิ่งก็จะดังขึ้นและเขาก็จะเดินทางไปอยู่ในถ้ำ <br />
ผลที่ได้ก็คือ<br />
พวกเขาจะกลายเป็นคนใหม่และพบความรักและอำนาจของตัวเองอีกครั้ง <br />
- – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - <br />
ทำไมผู้หญิงชอบพูด <br />
ผู้หญิงชอบพูดด้วยสาเหตุหลายประการ บางครั้งด้วยสาเหตุเดียวกัน<br />
ที่ทำให้ผู้ชายเก็บตัวเงียบ แต่สำหรับผู้หญิงนั้น ผู้หญิงอยากพูดมากกว่าเงียบ <br />
และนี่คือเหตุผล 4 ข้อ ที่ทำให้ผู้หญิงอยากพูด <br />
1. เพื่อส่งหรือรับข่าวสารเพิ่มเติม (เป็นเหตุผลเดียวกับที่ผู้ชายพูด) <br />
2. เพื่อสำรวจและค้นหาว่าเธอต้องการพูดอะไรกันแน่ <br />
(ส่วนผู้ชายหยุดพูดเพื่อค้นหาภายในใจว่าเขาต้องการพูดอะไร<br />
ในขณะที่ผู้หญิงคิดโดยการพูดออกมาดังๆนั่นเอง) <br />
3. เพื่อควบคุมความรู้สึกและความคิดให้ดีขึ้น <br />
การพูดทำให้ผู้หญิงควบคุมความรู้สึกและความคิดให้ดีขึ้นได้มาก<br />
(ขณะที่ผู้ชายหยุดพูดตอนที่มีเรื่องไม่สบายใจ เขาควบคุมความรู้สึกได้ดีขณะอยู่ในถ้ำ) <br />
4. เพื่อสร้างความใกล้ชิด<br />
การเล่าเรื่องของตัวเองให้คนอื่นรับรู้ทำให้เธอรักตัวเองได้มากขึ้น <br />
(ผู้ชายหยุดพูดเพื่อค้นหาตัวเองอีกครั้ง<br />
การอยู่ใกล้ชิดเกินไปทำให้เขารู้สึกกลัวและไม่เป็นตัวของตัวเอง) <br />
- – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - – - <br />
ถ้าใครที่เข้าใจความแตกต่างอันนี้เป็นอย่างดีแล้ว<br />
จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นคู่รักหรือสามีภรรยาหลายคู่ไม่ค่อยลงรอยกัน <br />
———————————————-<br />
จาก ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์<br />
โดย John Gray, Ph.D.<br />
เรียบเรียงโดย สงกรานต์ จิตสุทธิภากร</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"></span><br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-80078562459655210322010-12-21T14:44:00.000-08:002010-12-21T14:44:47.124-08:00วิธีการดูเครื่อง iPhone 3G,3GS,iphone4 ว่ามาจากประเทศอะไร<span style="color: #3d85c6;">หลังจากกระแส ความนิยม iPhone ซัดมาอย่างไม่ขาดสาย จนทำให้ผมร้อนรนทนไม่ไหว</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เลยต้องไปจัดหามาเป็นเจ้าของซักเครื่อง แล้วก็ได้ตามที่คาดหวัง จนทำให้กระเป๋าแฟ็บไปชั่วขณะ</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">อย่างไรก็ดี ช่วงนี้กำลังงุ่นง่าน กับการมองหาวิธีใช้งานให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียค่าสินสอดไป กับน้อง iPhone 3GS</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">พอดีแว๊บไปเห็นข้อมูลที่น่าเป็นประโยชน์ เลยนำมาฝากกัน เผื่อใครผ่านเข้ามาดูจะได้เก็บไว้เป็นอาหารสมองครับ</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">วิธีการดูเครื่อง iPhone 3G,3GS,iphone4</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เข้าไปที่ Settings – General – About</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ดูตรง Model ว่าตรงกับประเทศไหน โดยเน้นไปที่ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัว </span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ประเทศที่เป็นเครื่อง Official Unlocked มี 18 ประเทศ ดังนี้ครับ </span><br />
<span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">1.Belgium (NF)<br />
<br />
2.Czech Republic (CZ)<br />
<br />
3.Greece (GR)<br />
<br />
4.Hongkong (ZP)<br />
<br />
5.Italy (T)<br />
<br />
6.Luxembourg (NF,FB)<br />
<br />
7.Macau (ZP)<br />
<br />
8.Malaysia (ZA)<br />
<br />
9.NewZealand (X)<br />
<br />
10.Russia (RS)<br />
<br />
11.Saudi Arabia (AB)<br />
<br />
12.Singapore (ZA)<br />
<br />
13.Slovakia เฉพาะ orange (SL)<br />
<br />
14.South Africa (SO)<br />
<br />
15.Taiwan (TA)<br />
<br />
16.Thailand (TH)<br />
<br />
17.Turkey เฉพาะ TurkCell (TU)<br />
<br />
18.Arab Emirate (AB)<br />
<br />
<br />
เครื่อง Locked แต่สามารถจ่ายเงินให้ Operator<br />
ที่ซื้อมาเพื่อให้เครื่องเป็นสถานะ Unlocked ได้ มีดังนี้<br />
<br />
<br />
1. อาร์เจนตินา<br />
<br />
2. ออสเตรเลีย<br />
<br />
3. ออสเตรีย เฉพาะเครือข่าย Orange<br />
<br />
4. บราซิล เฉพาะเครือข่าย TIM<br />
<br />
5. บัลแกเรีย<br />
<br />
6. ชิลี<br />
<br />
7. โคลอมเบีย<br />
<br />
8. โครเอเชีย<br />
<br />
9. โดมินิกัน เฉพาะเครือข่าย Orange<br />
<br />
10. เอกวาดอร์<br />
<br />
11. เอลซัลวาดอร์<br />
<br />
12. เอสโตเนีย<br />
<br />
13. ฝรั่งเศส<br />
<br />
14. Guadeloupe (French West Indies) กวาเดอลูป (ฝรั่งเศสตะวันตก)<br />
<br />
15. กัวเตมาลา<br />
<br />
16. ฮอนดูรัส<br />
<br />
17. ฮังการี<br />
<br />
18. อินเดีย เฉพาะเครือข่าย Airtel<br />
<br />
19. ลัตเวีย<br />
<br />
20. ลิกเตนสไตน์<br />
<br />
21. มาซิโดเนีย<br />
<br />
22. มอนเตเนโกร<br />
<br />
23. ปารากวัย<br />
<br />
24. เปรู<br />
<br />
25. โปแลนด์<br />
<br />
26. โปรตุเกส เฉพาะเครือข่าย Vodafone<br />
<br />
27. Reunion Island<br />
<br />
28. โรมาเนีย<br />
<br />
29. สเปน<br />
<br />
30. สวิตเซอร์แลนด์ เฉพาะเครือข่าย Orange<br />
<br />
31. อุรุกวัย <br />
<br />
<br />
<br />
เครื่อง Official Locked ที่ Lock ถาวร มีดังนี้<br />
<br />
<br />
1. ออสเตรีย เฉพาะเครือข่าย T-Mobile<br />
<br />
2. บอตสวานา<br />
<br />
3. บราซิล เฉพาะเครือข่าย Claro และ VIVO<br />
<br />
4. แคเมอรูน<br />
<br />
5. แคนาดา<br />
<br />
6. Central African Republic (แอฟริกากลาง)<br />
<br />
7. เดนมาร์ก<br />
<br />
8. โดมินิกัน เฉพาะเครือข่าย Claro<br />
<br />
9. อียิปต์<br />
<br />
10. ฟินแลนด์<br />
<br />
11. เยอรมนี<br />
<br />
12. กินี<br />
<br />
13. อินเดีย เฉพาะเครือข่าย Vodafone<br />
<br />
14. อินโดนีเซีย<br />
<br />
15. ไอร์แลนด์<br />
<br />
16. โกตดิวัวร์<br />
<br />
17. จาเมกา<br />
<br />
18. ญี่ปุ่น<br />
<br />
19. จอร์แดน<br />
<br />
20. เคนยา<br />
<br />
21. ลิทัวเนีย<br />
<br />
22. มาดากัสการ์<br />
<br />
23. มาลี<br />
<br />
24. มอริเชียส<br />
<br />
25. มอลตา<br />
<br />
26. เม็กซิโก<br />
<br />
27. มอลโดวา<br />
<br />
28. เนเธอร์แลนด์<br />
<br />
29. นิการากัว<br />
<br />
30. ไนเจอร์<br />
<br />
31. นอร์เวย์<br />
<br />
32. ปานามา<br />
<br />
33. ฟิลิปปินส์<br />
<br />
34. โปรตุเกส เฉพาะเครือข่าย Optimus<br />
<br />
35. เซเนกัล<br />
<br />
36. สโลวาเกีย เฉพาะเครือข่าย T-Mobile<br />
<br />
37. สวีเดน<br />
<br />
38. สวิตเซอร์แลนด์ เฉพาะเครือข่าย SwissCom<br />
<br />
39. ตุรกี เฉพาะเครือข่าย Vodafone<br />
<br />
40. สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)<br />
<br />
41. สหรัฐอเมริกา<br />
<br />
42. เวเนซุเอลา<br />
<br />
(ลองตรวจสอบดูนะครับว่าตรงกับประทศไหน สำคัญมาก )<br />
<br />
<br />
การดู serial เครื่อง<br />
<br />
ส่วน serial ตัวที่ 3 คือ ปีที่ผลิตครับ 8=2008 , 9=2009 , 0 = 2010<br />
<br />
เลขตัวที่ 4 และ 5 นี่คือ week ของการผลิตครับ<br />
<br />
<br />
<br />
เครื่อง Refurbished คือ<br />
<br />
เครื่องที่เคยถูกใช้งานแล้วเสีย จึงเอาไปเคลมครับ<br />
<br />
Apple ซ่อมและใส่ Package ใหม่ แล้วเอามาขายเป็นมือ 1 ในราคาถูกลงครับ<br />
<br />
พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเครื่องที่ผ่านการเคลมมาแล้วนั่นเอง<br />
<br />
<br />
<br />
ตัวย่อภาษาอังกฤษ 2 ตัวเพิ่มเติม<br />
<br />
AB Egypt (Mobinil, Vodafone, Orange), Saudi Arabia (Mobility), United Arab Emirates (etisalat) <br />
<br />
<br />
B Ireland (O2), UK (O2) <br />
<br />
C Canada (Rogers, Fido) <br />
<br />
CZ Czech Republic (O2, T-Mobile, Vodafone) <br />
<br />
DN Austria (T-Mobile), Germany (T-Mobile), Netherlands (T-Mobile) <br />
<br />
E Mexico (Telcel) <br />
<br />
EE Estonia (EMT) <br />
<br />
FB Luxembourg (LUXGSM, Tango) <br />
<br />
FD Austria (One), Liechtenstein (Orange, Swisscom), Switzerland (Orange, Swisscom) <br />
<br />
GR Greece (Vodafone) <br />
<br />
HN India (Airtel, Vodafone) <br />
<br />
J Japan (SoftBank) <br />
<br />
KN Norway (NetcCom) <br />
<br />
KS Finland (Sonera), Sweden (Telia) <br />
<br />
LA Colombia (Comcel, Movistar), Ecuador (Movistar, Porta), El Salvador (Movistar, Claro), Guatemala (Movistar, Claro), Honduras (Claro), Peru (Claro, TM SAC) <br />
<br />
LE Argentina (Movistar, Claro) <br />
<br />
LL USA (AT&T) <br />
<br />
LZ Chile (Claro, TMC), Paraguay (CTI Movil), Uruguay (Movistar, CTI Movil) <br />
<br />
MG Hungary (T-Mobile) <br />
<br />
NF Belgium (Mobistar), France (Orange), Luxembourg (Vox Mobile) <br />
<br />
PL Poland (Era, Orange) <br />
<br />
PO Portugal (Optimus, Vodafone) <br />
<br />
PP Philippines (Globe) <br />
<br />
RO Romania (Orange) <br />
<br />
RS Russia (Beeline, MegaFon, MTS) <br />
<br />
SL Slovakia (Orange, T-Mobile) <br />
<br />
SO South Africa (Vodacom) <br />
<br />
T Italy (TIM, Vodafone) <br />
<br />
TA Taiwan (Chunghwa Telecom) <br />
<br />
TU Turkey (TurkCell, Vodafone) <br />
<br />
X Australia (Optus, Telstra, Vodafone), New Zealand (Vodafone) <br />
<br />
Y Spain (Movistar) <br />
<br />
ZA Singapore (SingTel) <br />
<br />
ZP Hong Kong (3), Macau (3) <br />
<br />
<br />
ตัวอย่าง หมายเลข Model ของแต่ละประเทศและแต่ละเครือข่าย<br />
<br />
<br />
Belgium -Mobistar <br />
<br />
MB489NF/A <br />
MB496NF/A <br />
MB500NF/A <br />
MC131NF/A <br />
MC132NF/A <br />
MC133NF/A <br />
MC134NF/A <br />
<br />
CzechRepublic -O2 <br />
<br />
MB489CZ/A <br />
B496CZ/A <br />
MB500CZ/A <br />
MC131CZ/A <br />
MC132CZ/A <br />
C133CZ/A <br />
MC134CZ/A <br />
<br />
CzechRepublic- T-Mobile <br />
<br />
MB490CZ/A <br />
MB497CZ/A <br />
MB501CZ/A <br />
MC139CZ/A <br />
MC140CZ/A <br />
MC141CZ/A <br />
MC142CZ/A <br />
<br />
CzechRepublic -Vodafone <br />
<br />
MB489CZ/A <br />
MB496CZ/A <br />
MB500CZ/A <br />
MC131CZ/A <br />
MC132CZ/A <br />
MC133CZ/A <br />
MC134CZ/A <br />
<br />
Greece- Vodafone <br />
<br />
MB489GR/A <br />
MB496GR/A <br />
MB500GR/A <br />
MC131GR/A <br />
MC132GR/A <br />
<br />
Hong Kong -3 <br />
<br />
MB489ZP/A <br />
MB496ZP/A <br />
MB500ZP/A <br />
MC131ZP/A <br />
MC132ZP/A <br />
MC133ZP/A <br />
MC134ZP/A <br />
<br />
<br />
Italy- TIM <br />
<br />
MB489T/A <br />
MB496T/A <br />
MB500T/A <br />
MC131T/A <br />
MC132T/A <br />
MC133T/A <br />
MC134T/A <br />
<br />
Italy- Vodafone <br />
<br />
MB489T/A <br />
MB496T/A <br />
MB500T/A <br />
MC131T/A <br />
MC132T/A <br />
MC133T/A <br />
MC134T/A <br />
<br />
Macau -3 <br />
<br />
<br />
MB489ZP/A <br />
MB496ZP/A <br />
MB500ZP/A <br />
MC131ZP/A <br />
MC132ZP/A <br />
MC133ZP/A <br />
MC134ZP/A <br />
<br />
New Zealand -Vodafone <br />
<br />
<br />
MB489X/A <br />
MB496X/A <br />
MB500X/A <br />
MC131X/A <br />
MC132X/A <br />
MC133X/A <br />
MC134X/A <br />
<br />
<br />
Singapore- SingTel <br />
<br />
MB489ZA/A <br />
MB496ZA/A <br />
MB500ZA/A <br />
MC131ZA/A <br />
MC132ZA/A <br />
MC133ZA/A <br />
MC134ZA/A <br />
<br />
Slovakia- Orange <br />
<br />
MB489SL/A <br />
MB496SL/A <br />
MB500SL/A <br />
MC131SL/A <br />
MC132SL/A <br />
MC133SL/A <br />
MC134SL/A <br />
<br />
<br />
Saudi Arabia -Mobily <br />
<br />
MB489AB/A <br />
MB496AB/A <br />
MB500AB/A <br />
MC131AB/A <br />
MC132AB/A <br />
MC133AB/A <br />
MC134AB/A <br />
<br />
United Arab Emirates -etisalat <br />
<br />
MB489AB/A <br />
MB496AB/A <br />
MB500AB/A <br />
MC131AB/A <br />
MC132AB/A <br />
MC133AB/A <br />
MC134AB/A <br />
<br />
<br />
South Africa- Vodacom <br />
<br />
MB489SO/A <br />
MB496SO/A <br />
MB500SO/A <br />
MC131SO/A <br />
MC132SO/A <br />
MC133SO/A <br />
MC134SO/A <br />
<br />
Taiwan Chunghwa -Telecom <br />
<br />
MB489TA/A <br />
MB496TA/A <br />
MB500TA/A <br />
MC131TA/A <br />
MC132TA/A <br />
MC133TA/A <br />
MC134TA/A <br />
<br />
<br />
Turkey -TurkCell <br />
<br />
MB489TU/A <br />
MB496TU/A <br />
MB500TU/A <br />
MC131TU/A <br />
MC132TU/A <br />
MC133TU/A <br />
MC134TU/A <br />
<br />
Russia -MegaFon <br />
<br />
MB489RS/A <br />
MB496RS/A <br />
MB500RS/A <br />
MC131RS/A <br />
MC132RS/A <br />
MC133RS/A <br />
MC134RS/A <br />
<br />
Russia -MTS <br />
<br />
MB489RS/A <br />
MB496RS/A <br />
MB500RS/A <br />
MC131RS/A <br />
MC132RS/A <br />
MC133RS/A <br />
MC134RS/A <br />
<br />
<br />
Russia -Beeline <br />
<br />
MB489RS/A <br />
MB496RS/A <br />
MB500RS/A <br />
MC131RS/A <br />
MC132RS/A <br />
MC133RS/A <br />
MC134RS/A <br />
<br />
<br />
Luxembourg -Vox Mobile <br />
<br />
MB489NF/A <br />
MB496NF/A <br />
MB500NF/A <br />
MC131NF/A <br />
MC132NF/A <br />
MC133NF/A <br />
MC134NF/A <br />
<br />
<br />
Luxembourg -LUXGSM <br />
<br />
MB489FB/A <br />
MB496FB/A <br />
MB500FB/A <br />
MC131FB/A <br />
MC132FB/A <br />
MC133FB/A <br />
MC134FB/A <br />
<br />
Luxembourg -Tango <br />
<br />
MB489FB/A <br />
MB496FB/A <br />
MB500FB/A <br />
MC131FB/A <br />
MC132FB/A <br />
MC133FB/A <br />
MC134FB/A <br />
<br />
Argentina -Claro <br />
<br />
MB489LE/A <br />
MB496LE/A <br />
MB500LE/A <br />
MC131LE/A <br />
MC132LE/A <br />
MC133LE/A <br />
MC134LE/A <br />
<br />
Argentina -Movistar <br />
<br />
<br />
MB489LE/A <br />
MB496LE/A <br />
MB500LE/A <br />
MC131LE/A <br />
MC132LE/A <br />
MC133LE/A <br />
MC134LE/A <br />
<br />
Austria -One <br />
<br />
MB489FD/A <br />
MB496FD/A <br />
MB500FD/A <br />
MC131FD/A <br />
MC132FD/A <br />
MC133FD/A <br />
MC134FD/A <br />
<br />
Australia -Optus <br />
<br />
MB489X/A <br />
MB496X/A <br />
MB500X/A <br />
MC131X/A <br />
MC132X/A <br />
MC133X/A <br />
MC134X/A <br />
<br />
Australia -Telstra <br />
<br />
MB489X/A <br />
MB496X/A <br />
MB500X/A <br />
MC131X/A <br />
MC132X/A <br />
MC133X/A <br />
MC134X/A <br />
<br />
<br />
Australia -Vodafone <br />
<br />
MB489X/A <br />
MB496X/A <br />
MB500X/A <br />
MC131X/A <br />
MC132X/A <br />
MC133X/A <br />
MC134X/A <br />
<br />
Chile -Claro <br />
<br />
MB489LZ/A <br />
MB496LZ/A <br />
MB500LZ/A <br />
MC131LZ/A <br />
MC132LZ/A <br />
MC133LZ/A <br />
MC134LZ/A <br />
<br />
<br />
Chile -TMC <br />
<br />
MB489LZ/A <br />
MB496LZ/A <br />
MB500LZ/A <br />
MC131LZ/A <br />
MC132LZ/A <br />
MC133LZ/A <br />
MC134LZ/A <br />
<br />
Colombia -Comcel <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Colombia -Movistar <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Ecuador -Porta <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Ecuador -Movistar <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
El Salvador -Claro <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
El Salvador -Movistar <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Estonia -EMT <br />
<br />
MB489EE/A <br />
MB496EE/A <br />
MB500EE/A <br />
MC131EE/A <br />
MC132EE/A <br />
MC133EE/A <br />
MC134EE/A <br />
<br />
<br />
Finland -Sonera <br />
<br />
MB489KS/A <br />
MB496KS/A <br />
MB500KS/A <br />
MC131KS/A <br />
MC132KS/A <br />
MC133KS/A <br />
MC134KS/A <br />
<br />
<br />
France -Orange <br />
<br />
MB489NF/A <br />
MB496NF/A <br />
MB500NF/A <br />
MC131NF/A <br />
MC132NF/A <br />
MC133NF/A <br />
MC134NF/A <br />
<br />
<br />
Guatamela -Claro <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Guatamela -Movistar <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Hungary -T-Mobile <br />
<br />
<br />
MB490MG/A <br />
MB497MG/A <br />
MB501MG/A <br />
MC139MG/A <br />
MC140MG/A <br />
MC141MG/A <br />
MC142MG/A <br />
<br />
<br />
Honduras -Claro <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
<br />
India -Airtel <br />
<br />
<br />
MB489HN/A <br />
MB496HN/A <br />
MB500HN/A <br />
MC131HN/A <br />
MC132HN/A <br />
MC133HN/A <br />
MC134HN/A <br />
<br />
<br />
Liechtenstein -Orange <br />
<br />
MB489FD/A <br />
MB496FD/A <br />
MB500FD/A <br />
MC131FD/A <br />
MC132FD/A <br />
MC133FD/A <br />
MC134FD/A <br />
<br />
<br />
Liechtenstein -Swisscom <br />
<br />
MB489FD/A <br />
MB496FD/A <br />
MB500FD/A <br />
MC131FD/A <br />
MC132FD/A <br />
MC133FD/A <br />
MC134FD/A <br />
<br />
Norway -NetcCom <br />
<br />
MB489KN/A <br />
MB496KN/A <br />
MB500KN/A <br />
MC131KN/A <br />
MC132KN/A <br />
MC133KN/A <br />
MC134KN/A <br />
<br />
Paraguay -CTI Movil <br />
<br />
MB489LZ/A <br />
MB496LZ/A <br />
MB500LZ/A <br />
MC131LZ/A <br />
MC132LZ/A <br />
MC133LZ/A <br />
MC134LZ/A <br />
<br />
<br />
Peru -Claro <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Peru -TM SAC <br />
<br />
MB489LA/A <br />
MB496LA/A <br />
MB500LA/A <br />
MC131LA/A <br />
MC132LA/A <br />
MC133LA/A <br />
MC134LA/A <br />
<br />
Poland -Orange <br />
<br />
MB489PL/A <br />
MB496PL/A <br />
MB500PL/A <br />
MC131PL/A <br />
MC132PL/A <br />
MC133PL/A <br />
MC134PL/A <br />
<br />
Poland -Era <br />
<br />
<br />
MB489PL/A <br />
MB496PL/A <br />
MB500PL/A <br />
MC131PL/A <br />
MC132PL/A <br />
MC133PL/A <br />
MC134PL/A <br />
<br />
Portugal -Vodafone <br />
<br />
MB489PO/A <br />
MB496PO/A <br />
MB500PO/A <br />
MC131PO/A <br />
MC132PO/A <br />
MC133PO/A <br />
MC134PO/A <br />
<br />
Romania -Orange<br />
MB489RO/A <br />
MB496RO/A <br />
MB500RO/A <br />
MC131RO/A <br />
MC132RO/A <br />
MC133RO/A <br />
MC134RO/A <br />
<br />
Spain -Movistar<br />
<br />
MB757Y/A <br />
MB759Y/A <br />
MB760Y/A <br />
MC131Y/A <br />
MC132Y/A <br />
MC133Y/A <br />
MC134Y/A <br />
<br />
Switzerland -Orange <br />
<br />
MB489FD/A <br />
MB496FD/A <br />
MB500FD/A <br />
MC131FD/A <br />
MC132FD/A <br />
MC133FD/A <br />
MC134FD/A <br />
<br />
Switzerland -Swisscom <br />
<br />
MB489FD/A <br />
MB496FD/A <br />
MB500FD/A <br />
MC131FD/A <br />
MC132FD/A <br />
MC133FD/A <br />
MC134FD/A <br />
<br />
Uruguay -CTI Movil <br />
<br />
MB489LZ/A <br />
MB496LZ/A <br />
MB500LZ/A <br />
MC131LZ/A <br />
MC132LZ/A <br />
MC133LZ/A <br />
MC134LZ/A <br />
<br />
Uruguay -Movistar <br />
<br />
MB489LZ/A <br />
MB496LZ/A <br />
MB500LZ/A <br />
MC131LZ/A <br />
MC132LZ/A <br />
MC133LZ/A <br />
MC134LZ/A <br />
<br />
Austria -T-Mobile<br />
<br />
MB490DN/A <br />
MB497DN/A <br />
MB501DN/A <br />
MC139DN/A <br />
MC140DN/A <br />
MC141DN/A <br />
MC142DN/A <br />
<br />
Canada -Rogers <br />
<br />
MB629C/A <br />
MB630C/A <br />
MB631C/A <br />
MB632C/A <br />
MB633C/A <br />
MB634C/A <br />
MB635C/A <br />
MB636C/A <br />
MC143C/A <br />
MC144C/A <br />
MC145C/A <br />
MC146C/A <br />
MC147C/A <br />
MC148C/A <br />
MC149C/A <br />
MC150C/A <br />
<br />
Canada -Fido <br />
MB629C/A <br />
MB630C/A <br />
MB631C/A <br />
MB632C/A <br />
MB633C/A <br />
MB634C/A <br />
MB635C/A <br />
MB636C/A <br />
MC143C/A <br />
MC144C/A <br />
MC145C/A <br />
MC146C/A <br />
MC147C/A <br />
MC148C/A <br />
MC149C/A <br />
MC150C/A <br />
<br />
Germany -T-Mobile <br />
<br />
MB490DN/A <br />
MB497DN/A <br />
MB501DN/A <br />
MC139DN/A <br />
MC140DN/A <br />
MC141DN/A <br />
MC142DN/A <br />
<br />
India -Vodafone <br />
<br />
MB489HN/A <br />
MB496HN/A <br />
MB500HN/A <br />
MC131HN/A <br />
MC132HN/A <br />
MC133HN/A <br />
MC134HN/A <br />
<br />
Ireland -O2 <br />
<br />
MB489B/A <br />
MB496B/A <br />
MB500B/A <br />
MC131B/A <br />
MC132B/A <br />
MC133B/A <br />
MC134B/A <br />
<br />
<br />
Japan -SoftBank <br />
<br />
MB489J/A <br />
MB496J/A <br />
MB500J/A <br />
MC131J/A <br />
MC132J/A <br />
MC133J/A <br />
MC134J/A <br />
<br />
Mexico -Telcel <br />
<br />
MB489E/A <br />
MB496E/A <br />
MB500E/A <br />
MC131E/A <br />
MC132E/A <br />
MC133E/A <br />
MC134E/A <br />
<br />
<br />
Netherlands -T-Mobile <br />
<br />
MB490DN/A <br />
MB497DN/A <br />
MB501DN/A <br />
MC139DN/A <br />
MC140DN/A <br />
MC141DN/A <br />
MC142DN/A <br />
<br />
<br />
Philippines -Globe <br />
<br />
MB489PP/A <br />
MB496PP/A <br />
MB500PP/A <br />
MC131PP/A <br />
MC132PP/A <br />
MC133PP/A <br />
MC134PP/A <br />
<br />
<br />
Portgual -Optimus <br />
<br />
MB489PO/A <br />
MB496PO/A <br />
MB500PO/A <br />
MC131PO/A <br />
MC132PO/A <br />
MC133PO/A <br />
MC134PO/A <br />
<br />
<br />
Slovakia -T-Mobile <br />
<br />
MB490SL/A <br />
MB497SL/A <br />
MB501SL/A <br />
MC139SL/A <br />
MC140SL/A <br />
MC141SL/A <br />
MC142SL/A <br />
<br />
<br />
Sweden -Telia <br />
<br />
MB489KS/A <br />
MB496KS/A <br />
MB500KS/A <br />
MC131KS/A <br />
MC132KS/A <br />
MC133KS/A <br />
<br />
<br />
UK -O2 <br />
<br />
MB489B/A <br />
MB496B/A <br />
MB500B/A <br />
MC131B/A <br />
MC132B/A <br />
MC133B/A <br />
MC134B/A <br />
<br />
USA -AT&T <br />
<br />
MB046LL/A <br />
MB048LL/A <br />
MB499LL/A <br />
MB702LL/A <br />
MB704LL/A <br />
MB705LL/A <br />
MB715LL/A <br />
MB716LL/A <br />
MB717LL/A <br />
MB718LL/A <br />
MB719LL/A <br />
MC135LL/A <br />
MC136LL/A <br />
MC137LL/A <br />
MC138LL/A <br />
<br />
Egypt -Mobinil <br />
<br />
MB489AB/A <br />
MB496AB/A <br />
MB500AB/A <br />
MC131AB/A <br />
MC132AB/A <br />
MC133AB/A <br />
<br />
Egypt -Vodafone <br />
<br />
MB489AB/A <br />
MB496AB/A <br />
MB500AB/A <br />
MC131AB/A <br />
MC132AB/A <br />
MC133AB/A <br />
MC134AB/A <br />
<br />
****** <br />
<br />
Orange <br />
<br />
MB489AB/A <br />
MB496AB/A <br />
MB500AB/A <br />
MC131AB/A <br />
MC132AB/A <br />
MC133AB/A <br />
MC134AB/A <br />
<br />
Turkey -Vodafone <br />
<br />
MB489TU/A <br />
MB496TU/A <br />
MB500TU/A <br />
MC131TU/A <br />
MC132TU/A <br />
MC133TU/A <br />
MC134TU/A <br />
<br />
<br />
(หากซ้ำขออภัย)<br />
<br />
ที่มา : pdamobiz.com , Blue Phone Blog</span></span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"></span><br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top"><span style="color: #3d85c6;">TOP</span></a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-65962381833272054462010-07-26T05:25:00.000-07:002010-07-26T05:25:53.268-07:00ความแตกต่างของคำว่า "เพื่อน"<span style="color: #0b5394;">Type of friend words.</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #6fa8dc;">homie (n) เพื่อนบ้าน <br />
neighbor(n.)เพื่อนบ้าน <br />
platonic (adj) สัมพันธ์ฉันท์เพื่อน <br />
dude [ดู๊ด] (slang ) เพื่อน <br />
penfriend ['penfrend] (n ) เพื่อนทางจดหมาย แต่ไม่เคยพบหน้ากัน <br />
ace [N] เพื่อนสนิทที่สุด (คำสแลง) <br />
boyfriend [N] เพื่อนชาย, See also: แฟน, คู่รัก, Syn. sweetheart, Ant. girlfriend <br />
bridesmaid [N] เพื่อนเจ้าสาว, Ant. groomsman <br />
bud [N] เพื่อนยาก, See also: พี่ชาย, Syn. friend <br />
buddy [N] เพื่อนรัก, See also: คู่ขา, เพื่อนคู่หู, สหาย, Syn. fellow <br />
chum [N] เพื่อนร่วมห้อง, Syn. roomate <br />
chum [N] เพื่อนสนิท, Syn. close friend <br />
classmate [N] เพื่อนร่วมชั้นเรียน <br />
cohort [N] เพื่อนร่วมงาน, Syn. partner, ally, companion <br />
colleague [N] เพื่อนร่วมงาน, Syn. associate, co-worker, partner <br />
along(prep.) เป็นเพื่อนร่วมทาง <br />
alter ego-เพื่อนแท้ (perfect substitute) <br />
ami -n., (pl. amis) fr. เพื่อน abbr. acutemyocardial infarction <br />
best man n. เพื่อนเจ้าบ่าว <br />
billy (บิล'ลี) n.,เพื่อน,เพื่อนทหาร, Syn. club <br />
blood brother( n. )พี่น้องร่วมสายโลหิต,เพื่อนร่วมน้ำสาบานด้วยการดื่มเลือดสาบาน <br />
accompany (vt) ไปเป็นเพื่อน,ไปกับ,ไปด้วยกัน <br />
associate (n) มิตรสหาย,เพื่อนฝูง,พรรคพวก,ผู้ร่วมงาน,ภาคี <br />
bedfellow (n) คู่นอน,เพื่อนนอน <br />
befriend (vt) เป็นเพื่อน,ตีสนิท,ทำความรู้จัก <br />
boon (n) ผลประโยชน์,บุญคุณ,เพื่อนร่วมสนุก <br />
fair-weather friend(n.)เพื่อนกิน <br />
friend(n.)เพื่อน <br />
close friend(n.)เพื่อนซี้ <br />
real friend(n.)เพื่อนตาย <br />
valued friend(n.)เพื่อนรัก <br />
true friend(n.)เพื่อนแท้</span> </span><br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-61509416629757927952010-05-20T03:21:00.000-07:002010-05-20T06:57:05.396-07:00จิ๊กซอว์รัฐล่มสลาย นำไปสู่ "รัฐใหม่"<span style="color: #3d85c6;">เมื่อวันที่ 16/5/53 เวลา 23.20 ได้ดูรายการ สถานีข่าวสารเพื่อประชาชน ทางช่อง NBT เกี่ยวกับ"รัฐล่มสลาย" หรือ "failed state" ที่ คุณโสภณ สุภาพงษ์ ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">"รัฐไทย" จะเข้าสู่วงจรล่มสลายอย่างเป็นระบบเป็นสิ่งที่น่ากังวลท่ามกลางสถานการณ์ สงครามกลางเมืองเช่นนี้<br />
<br />
ด้วยมีขบวนการคิดที่แยบคาย คอยวางแผนเดินเกมให้ระบบรัฐไทยเดินเข้าสู่หลุมดำอย่างช้าๆจนยากที่จะถอนตัว?<br />
<br />
"ประเด็น ที่ต้องจับตา ต้องเริ่มที่คำว่า การเป็นรัฐล้มเหลว หรือ รัฐพังทลาย มันเป็นความพยายามของผู้ก่อการร้ายที่จะผลักดันให้ไปถึงตรงนั้น แม้ว่า...ประเทศไทยเรายังห่างไกล แต่ก็ต้องแก้ไขไม่ให้ถูกผลักดันไปสู่สภาวะนั้นได้"<br />
<br />
คุณโสภณ สุภาพงษ์ เจ้าของรางวัลแมกไซไซ สาขางานบริการสังคมประจำปี 2541 ผู้คลุกคลีอยู่กับการแก้ปัญหาความยากจน บอก <br />
<br />
ตามหลักวิชาการ "ดัชนีรัฐล้มเหลว" หรือ "รัฐพังทลาย" ถูกใช้อ้างโดยประเทศมหาอำนาจที่จะเข้าไปแทรกแซงเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของรัฐ ใดรัฐหนึ่งโดยผิดกฎหมายแต่อ้างความชอบธรรม เพื่อต้องการเข้าไปมีผลประโยชน์ หรือเพื่อรักษาผลประโยชน์<br />
<br />
หลักใหญ่เป็นอย่างนั้น แต่ทีนี้เราก็ต้องเข้าใจ คำว่า "รัฐ" เสียก่อน<br />
<br />
"รัฐ" ทางวิชาการ กล่าวได้ว่า คือผู้ที่มีสิทธิ์ขาดในการใช้กำลังความรุนแรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะว่าประชาชนเป็นผู้มอบอำนาจนี้ให้รัฐ แล้วรัฐก็เป็นผู้เดียวที่ใช้กำลังความรุนแรงโดยชอบด้วยกฎหมายได้ <br />
<br />
ดัง นั้น ถ้าผู้อื่นมาใช้อำนาจนี้แทน...ความเป็นรัฐก็ไม่มี หรือรัฐไม่สามารถใช้ได้ เมื่ออ่อนแอจนใช้ไม่ได้...ความเป็นรัฐก็ไม่มี<br />
<br />
"รัฐ พังทลาย" เข้าใจง่ายๆก็หมายถึงว่า รัฐได้สูญเสียอำนาจในการควบคุมเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐ สูญเสียพื้นที่การปกครองให้แก่ผู้ที่ก่อการร้าย ตัวอย่าง... ในหน่วยงานที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นแตงโม บางส่วนทำงานให้ผู้ก่อการร้าย...บางส่วนทำงานให้รัฐ<br />
<br />
จึงเกิดคำว่า... "รัฐซ้อนรัฐ" หรือ...ในพื้นที่ของรัฐ แต่มีพื้นที่ที่ผู้ก่อการ ร้ายมีอิทธิพลมากกว่ารัฐในบางส่วน ก็เรียกว่า "รัฐซ้อนรัฐ" เช่นกัน<br />
<br />
กองทุน สันติภาพ วัดความล่มสลายรัฐเอาไว้ด้วยลักษณะ 4 ประการ...ในดัชนีย่อย 12 เรื่อง ลักษณะแรก...รัฐสูญเสียการมีสิทธิ์ขาด การใช้ความรุนแรงที่ชอบด้วยกฎหมายแต่ผู้เดียวให้กับผู้อื่น กรณีประเทศไทยก็คงเป็นการยิงเอ็ม 79 ต่อสัญลักษณ์... สถาบันรัฐ เพื่อให้เห็นว่ารัฐไม่มีอำนาจ หรือการที่ทหารตั้งด่านก็ถูกโจมตี หรือมีกอง กำลังที่ตั้งด่านมากกว่าทหาร จับทหารปลดอาวุธ เขกหัว เตะ กระทืบ ยิงซ้ำ ฯลฯ<br />
<br />
เหล่า นี้เป็นการกระทำเพื่อให้รู้ว่ามีอำนาจที่อยู่เหนือรัฐบางส่วน การแสดงสิ่งอย่างนี้มากๆตัวเลขดัชนีข้อนี้ก็จะสูง<br />
<br />
กรณีที่เห็นได้อีก เสธ.แดงถูกยิง ทำไม? ต้องยิงกลางนักข่าว ถ้าเป็นการเอาคืน ทำร้ายที่ไหนก็ได้ แต่นี่ลักษณะเป็นการพลอตเรื่อง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพื่อให้เห็นว่ามีทหารประจำการที่ต่อต้านรัฐอยู่กับฝ่ายผู้ก่อการร้าย<br />
<br />
ให้ เห็นว่า...รัฐกำลังทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ก็จะได้ประโยชน์กับผู้ที่บงการที่อยู่กับนอกประเทศ<br />
<br />
"จิ๊กซอว์ที่ปะ ติดปะต่อให้เห็นภาพเหล่านี้ น่าจะเป็นแนวร่วมกับระบอบเดิม ในยุทธวิธีเห็นได้ชัดเป็นการเรียนรู้ยุทธวิธีของโจรในโรงเรียนทหาร และกลุ่มที่เป็นซ้ายเก่าที่มีการวางแผนในระดับประเทศ...คนบงการกลุ่มนี้อยู่ นอกการชุมนุมแน่นอน"<br />
<br />
โสภณ ย้ำว่า แผนไม่มีบันไดเป็นขั้นๆ แต่อยู่ในลักษณะ 4 ประการ<br />
<br />
ที่ทำใส่ลงไปให้ดัชนีระหว่างประเทศถูกนำมา อ้างได้ เพื่อที่จะนำต่างประเทศที่ร่วมกับเขาเข้ามาเป็นพวกเขา แล้วเข้ามาเพื่อล้มโครงสร้างในประเทศ<br />
<br />
ลักษณะที่สอง...เกิดกลุ่ม ประชาชนที่เกลียดแค้น แก้แค้น ชิงชังกันโดยรัฐไม่สามารถที่จะรวบรวมความสามัคคีได้ อันนี้ก็ชัด แก้แค้น...มันลึกเพราะเกลียดชังกันจนแก้แค้นกัน เกิดขึ้นแล้วในแอฟริกาให้หลายรัฐที่เป็นรัฐล้มเหลวมาแล้ว<br />
<br />
ลักษณะที่ สาม...ผู้ก่อการร้ายฆ่าประชาชนโดยที่รัฐป้องกันไม่ได้ แสดงว่าอำนาจรัฐมีปัญหา เราจะเห็นว่าทำไมถึงมีการฆ่าคนบริสุทธิ์<br />
<br />
"ทั้ง ที่จริงแล้ว การชุมนุมต้องเอาใจประชาชน แต่กลับฆ่าคนบริสุทธิ์มากมาย ก็เพื่อให้เห็นว่าเป็นอย่างนี้ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐเองก็ยังโดนทำร้าย..."<br />
<br />
ลักษณะที่สี่...ต่าง ประเทศไม่ได้ติดต่อกับรัฐเพียงผู้เดียว หรือรัฐก็ไม่ได้รับความเชื่อถือแต่ผู้เดียวในการติดต่อกับองค์กรต่างประเทศ<br />
<br />
"เรา เกิดขึ้นแล้วจากข่าวที่ผ่านมา จากตัวแทนเป็นทางการจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาพบแกนนำผู้ชุมนุม ที่สำคัญ...แสดงว่าต่างประเทศรับรู้ว่ามีอำนาจรัฐที่ซ้อนอยู่ในรัฐ <br />
<br />
เหล่า นี้น่าจะไม่ใช่ความบังเอิญ หากแต่เป็นการทำตามบทเดินเรื่องที่มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ที่พยายามทำเหตุการณ์ทั้งหมดให้เข้าสู่เรื่องนี้ให้ได้"<br />
<br />
รัฐ ไทย...ดัชนีตัวเลขกองทุนสันติภาพปีที่แล้ว อยู่ในช่วงเตือนภัย จากการวัดที่อเมริกาวัดด้วยดัชนี 12 หัวข้อ ข้อละ 10 คะแนน รวม 120 คะแนน <br />
<br />
ใคร ได้เยอะก็ยิ่งไม่ดี ผู้ที่ได้ 90-120 คะแนน เป็นรัฐที่พังทลาย หรือ รัฐล้มเหลว...60-90 อยู่ในระยะเตือนภัย กำลังไปสู่รัฐล้มเหลว ถ้า 30-60 ถือว่าปกติ ปานกลาง 0-30 ถือว่าดี...มีการบริหารจัดการที่ดี<br />
<br />
กลางปี ที่แล้ว...ประเทศไทยถูกวัดไว้ได้ 79.2 ถือว่าปริ่ม...สถาน-การณ์บ้านเมืองปีที่แล้วในลักษณะข้อแรกฯได้ 7.5 คะแนน มาถึงปีนี้สถานการณ์ยกระดับขึ้นไปมาก ไม่แน่ว่า...เรามีโอกาสได้คะแนนเต็ม<br />
<br />
ลักษณะ...ข้อ ที่สองเราได้ 8 มาถึงวันนี้...แย่ลงมาก ไม่ใช่แค่จำนวนกลุ่มที่มีหลายกลุ่ม แต่ความเกลียดกระจายไปหลายเรื่อง ตัววัดข้อนี้...ในปีนี้อาจจะเต็มได้<br />
<br />
ข้อ ที่สาม...มีกลุ่มก่อการร้ายที่ฆ่าคนบริสุทธิ์โดยรัฐป้องกันไม่ได้ ปีที่แล้วได้ 5.4 มาปีนี้...จะพุ่งไปแค่ไหน พุ่งสูงแบบกระโดดแน่นอน ส่วนลักษณะข้อที่สี่... ต่างประเทศเข้ามาแทรกแซง เหมือนรัฐซ้อนรัฐอยู่ในที ข้อนี้ต้องยอมรับว่าเป็นอีกข้อที่ถูกผลักดัน<br />
<br />
คุณโสภณ ย้ำว่า เหล่านี้ไม่ใช่ประเทศไทยเป็น แต่มันถูกใช้ต่อจิ๊กซอว์ให้เป็นเช่นนั้น ต้องย้ำว่า...ไม่ได้หมายความว่าเราเป็น แต่มันมีการผลักดันสร้างเหตุการณ์ให้เป็นเช่นนั้นจริงๆ<br />
<br />
การเข้ามาของ ต่างประเทศที่อ้างความชอบธรรม ภาพที่เกิดขึ้นแล้วในหลายประเทศ ในอิรัก...ชัดเจนว่าเข้าไปยึดครองโครงสร้างหมด ตามมาด้วยการเลือกตั้งหลังจากนั้นสองปี หลังจากทำลายโครงสร้างรัฐเดิมหมดแล้ว<br />
<br />
"แล้วก็มาปรากฏภายหลังว่าเป็น เท็จทั้งสิ้น แต่เข้าไปเพื่อป้องกันธุรกิจการเมือง ค้าน้ำมัน บริษัทซ่อมบำรุงก่อสร้างพลังงาน เข้าไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ ยึดผลประโยชน์ของตัวเองเท่านั้น ที่ต้องดู...ก็ดูเพียงว่าเขาจะหนุนอำนาจใครที่ให้ผลประโยชน์ได้มากที่สุด"<br />
<br />
ถัด มา...โซมาเลีย เพราะรัฐอ่อนแอมาก มีผู้ก่อการร้าย หรือกระทั่งที่ติมอร์ รัฐไม่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ต่างชาติมีมติส่งทหารเข้าไปดูแล ถ้าเป็นเรา...ถ้าเมืองไทยมีทหารติมอร์เข้ามาดูแลความสงบที่ราชประสงค์เราจะ เอาไหม<br />
<br />
"ไม่เชื่อถือ...ในสถาบันกองทัพไทยอีกเลย แต่จะเอาแต่ทหารต่างประเทศเท่านั้น เราเอาไหม..."<br />
<br />
จุดเปลี่ยนที่น่า สนใจ ถ้าเป็นเรื่องของผู้บงการที่มีอยู่นอกการชุมนุม ใช้ผู้ชุมนุมเป็นแค่เบี้ย...ต้องการให้ตาย เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อความ เข้มข้นที่จะดึงต่างชาติเข้ามาได้<br />
<br />
ฉะนั้น...นี่คือสิ่งที่เราจะต้อง มองให้ทะลุ ต้องจับผู้บงการข้างนอกกลุ่มผู้ชุมนุมเสียก่อน สืบสาวโยงไปถึงเครือข่าย ส่วนคนที่อยู่ข้างใน...กลุ่มผู้ชุมนุม ทะเลาะกันอยู่ข้างถนน เป็นเบี้ยเท่านั้น ต้องไม่ไปโกรธแค้นคนเหล่านี้ แล้วต้องบอกผู้อยู่ในที่ชุมนุมด้วยว่า...ผู้บงการเขาต้องการให้เกิดความสูญ เสีย เพราะจะช่วยให้เขาบรรลุผลสำเร็จ<br />
<br />
เมื่อมอง และรู้อย่างนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ผู้เข้าปราบปราม ก็ต้องทำหน้าที่อย่างมีสติ อย่าให้ถึงขั้นต้องเสียเลือดเสียเนื้อ<br />
<br />
เส้นทางนำไปสู่...รัฐพังทลาย หรือล่มสลาย สะท้อนกลับไปถึงคำพูดแกนนำบางคน ด้วยรู้หรือไม่รู้ก็ตามที ที่ว่า... "การชุมนุมที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องคุณทักษิณ ไม่ใช่แค่เรื่องยุบสภา...เลือกตั้งใหม่ หรือเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความยากจนข้นแค้นประชาชนรากหญ้า แต่เป็นเรื่องที่ต้องเลยไปถึง เปลี่ยนโครงสร้างประเทศ..."<br />
<br />
ถ้าเป็น อย่างนี้ การเปลี่ยนโครงสร้างรัฐได้นั้น ก็มีเพียงการยืมมือต่างชาติช่วยให้เป้านี้บรรลุผลสำเร็จได้ เพราะไม่อย่างนั้นคำว่า... "รัฐใหม่" เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันต่างๆ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน<br />
<br />
ฟัง ดูแล้วถึงจะเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ แต่เราก็ไม่เคยคิดใช่ไหมว่าประเทศไทยจะเดินหน้าก้าวเข้าสู่ความรุนแรงถึง ขั้นเกิดสงครามกลางเมืองเช่นนี้...<br />
<br />
"...แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว รัฐบาลต้องไม่เผลอ ไม่ยอมรับสถานะการใช้อำนาจรัฐซ้อนรัฐ หมายความว่า...อำนาจรัฐต้องแข็ง กฎหมายของเรา ใครก็แทรกแซงไม่ได้"<br />
<br />
คุณโสภณ สุภาพงษ์ เจ้าของรางวัลแมกไซไซ สันติภาพคนจน กล่าวทิ้งท้าย.<br />
<br />
<em><span style="color: #3d85c6;"></span></em></span></span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><em><span style="color: #3d85c6;">ที่มา : </span><a href="http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/83930"><span style="color: #3d85c6;">http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/83930</span></a></em></span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">ปล. 1</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">ประชาชนทุกคนควรจะได้รู้ ( ขอย้ำว่าทุกคน ) ถึงภัยอันตรายที่กำลังเข้ามาถึงประเทศบ้านเกิดของตนเอง ผมไม่อยากให้ประเทศไทยนี้จะต้องถูกรัฐอื่นเข้ามาปกครอง ตั้งสติและใช้ปัญญา คิดถึงสิ่งเหล่านี้กันได้แล้วครับก่อนที่จะไม่มีเวลาให้คิด<br />
และท้ายสุดขอเป็นกำลังใจให้คณะรัฐบาลคลี่คลายปัญหาและบริหารประเทศ นำพาประชาชนผ่านวิกฤตไปได้ด้วยดีไม่ว่าขณะนี้หรือในอนาคตครับ</span><span style="color: #3d85c6;"></span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">ปล.2</span><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">จริงๆแล้วไม่อยากนำเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองมาลงเลย แต่ทว่า วันนี้คงไม่ใช่สิ่งที่ไกลตัวซะแล้ว</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">และอย่างน้อยขอแสดงมุมมองสักหน่อย</span><br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-4712828124091375402010-04-12T17:10:00.000-07:002010-04-12T17:10:04.681-07:00คำถามทางจิตวิทยา<span style="color: #6fa8dc;">เป็นคำถามทางจิตวิทยาที่ตรงมากๆ</span><br />
<span style="color: #6fa8dc;">ลองทำแล้วอึ้งไปเลย เลยเอามาให้เพื่อนๆ </span><br />
<span style="color: #6fa8dc;">ลองทำดู รับรองได้เลยว่าคุณจะรู้จักตัวคุณเองมากขึ้นอย่างแน่นอน</span><br />
<span style="color: #6fa8dc;">แต่ถ้าใครเคยทำแล้วก็ขออภัยด้วย หรืออาจจะลองทำดูใหม่</span><br />
<span style="color: #6fa8dc;">อีกทีก็ได้ เผื่อว่าความคิดของคุณจะเปลี่ยนแปลงไป</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<br />
<br />
<span style="color: #6fa8dc;">คำถามข้อที่ 1 ถามว่า หากโลกกำลังจะแตกคุณจะเลือกช่วยสัตว์ชนิดใด ?<br />
1. กระต่าย 2. แกะ 3. กวาง 4. ม้า<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 2 ถามว่าหากคุณได้เดินทางเพื่อ<br />
ไปเยี่ยมชมเผ่าพื้นเมืองแห่งหนึ่งในแอฟริกาขา<br />
กลับเขาจะให้สัตว์อย่างหนึ่ง เพื่อเป็นที่ระลึก คุณจะเลือกตัวอะไร?<br />
1. ลิง 2. สิงโต 3. งู 4. ยีราฟ<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 3 ถามว่าถ้าคุณได้ทำผิดแล้ว<br />
ถูกพระเจ้าลงโทษสาบให้เป็นสัตว์คุณจะเลือกเป็นตัวอะไร?<br />
1. สุนัข 2. แมว 3. ม้า 4. งู<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 4 ถามว่าถ้าคุณมีอำนาจคุ<br />
ณอยากจะเสกให้สัตว์ชนิดใดหายสาบสูญไปจากโลกตลอดกาล ?<br />
1. สิงโต 2. งู 3. จระเข้ 4. ฉลาม <br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 5 ถามว่าคุณอยากจะให้สัตว์ชนิดใดพูดภาษาคนได้มากที่สุด ?<br />
1. แกะ 2. ม้า 3. กระต่าย 4. นก<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 6 ถามว่าหากต้องติดอยู่บนเกาะร้าง<br />
กลางมหาสมุทร คุณอยากจะให้ใครไปอยู่เป็นเพื่อน ?<br />
1. มนุษย์ 2. หมู 3. วัว 4. นก<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 7 ถามว่าถ้ามีเวทมนต์คุณอยากจะเสกให้สัตว์ชนิดใดเป็นสัตว์เลี้ยง ?<br />
1. ไดโนเสาร์ 2. เสือขาว 3. หมีขั้วโลก 4. เสือดาว<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 8 ถามว่าคุณจะเลือกเป็นตัวอะไรถ้าหากสามารถแปลงเป็นสัตว์ได้ 5 นาที ?<br />
1. สิงโต 2. แมว 3. ม้า 4. นกพิราบ<br />
<br />
******************************************<br />
<br />
เฉลย แต่ขอบอกก่อนนะว่าถ้าอยาก<br />
ได้ผลการทดสอบที่ตรงกับความเป็นจริงแล้วล่ะก็ ต้องตอบให้ตรงกับที่ใจคิดนะ <br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 1 คุณสามารถช่วยชีวิตสัตว์ได้หนึ่งชนิดหากโลกจะแตกคุณจะเลือกช่วยอะไร?<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ คนที่มีบุคลิกแบบใดที่ดึงดูดใจคุณมากที่สุด?<br />
<br />
<br />
1. กระต่าย เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณชอบคนที่รักสันโดษ <br />
มองภายนอกเป็นคนสงบนิ่ง ซึ่งต่างจากภายในที่ร้อนเหมือนไฟ<br />
2. แกะ เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณชอบคนที่ดูอบอุ่นและเชื่อฟังคุณ<br />
3. กวาง เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณชอบคนบุคลิกดี สง่างามและดูภูมิฐาน<br />
4. ม้า เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณชอบคนที่รักอิสระเสรีไม่ชอบทำ<br />
อะไรตามกฏเกณฑ์และ เป็นตัวของตัวเอง<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 2 หากคุณได้เดินทางเพื่อไปเยี่ยมชมเผ่าพื้น<br />
เมืองแห่งหนึ่งในแอฟริกาขากลับเขาจะให้สัตว์อย่างหนึ่ง<br />
เพื่อเป็น ที่ระลึก คุณจะเลือกตัวอะไร?<br />
<br />
<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ การจีบแบบใดที่โดนใจคุณมากที่สุด?<br />
<br />
<br />
1. ลิง เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
คุณชอบการจีบแบบสร้างสรรค์ มีอะไรแปลกใหม่มาให้คุณ <br />
ประหลาดใจอยู่เสมอเพราะนั่นจะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อ<br />
2. สิงโต เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
คุณชอบการจีบแบบตรงไปตรงมา หากรักก็บอกว่ารักกัน ไปเลย<br />
3. งู เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณชอบการจีบ<br />
แบบที่ดูโลเลไม่แน่นอน บางครั้งเขาทำ เหมือน รักคุณมากมาย<br />
แต่บางครั้งก็แกล้งทำเหมือนไม่ใส่ใจคุณเลยเพราะนั่นจะทำ<br />
ให้คุณรู้สึกตื่นเต้นและท้าทายตลอดเวลา<br />
4. ยีราฟเหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณชอบ<br />
การจีบแบบที่แสดงถึงความอดทน จริงใจและ พร้อมที่จะให้อภัยคุณได้ทุกอย่าง<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 3 ถ้าคุณได้ทำผิดแล้วถูกพระเจ้าลงโทษสาบให้เป็นสัตว์คุณจะเลือกเป็นตัวอะไร?<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ สิ่งใดที่ทำให้คุณรู้สึกประทับใจในตัวเขา?<br />
<br />
1. สุนัข เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ ความซื่อสัตย์ ความมั่นคงและจริงใจที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง<br />
2. แมว เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ ความโก้เก๋ ความมีรสนิยมในตัวเขา<br />
3. ม้า เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ การมองโลกในแง่ดีของเขา<br />
4. งู เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ ความเป็นคนง่ายๆ สบายๆ และไม่เรื่องมากของเขา<br />
<br />
คำถามข้อที่ 4 ถ้าคุณมีอำนาจ คุณอยากจะเสกให้สัตว์ชนิดใดหายสาบสูญไปจากโลกตลอดกาล?<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ สิ่งใดที่คุณทนไม่ได้เลยหากคนรักของคุณทำนิสัย แบบนี้?<br />
<br />
1. สิงโต เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ การถือตัว ยิ่งยโสและชอบดูถูกคนของเขา<br />
2. งู เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเขา<br />
3. จระเข้ เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ ความก้าวร้าว หยาบกระด้างของเขา<br />
4. ฉลาม เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ อาการขี้ตกกังวลและความไม่มั่นใจในตัวเองของเ ขา<br />
<br />
คำถามข้อที่ 5 คุณอยากจะให้สัตว์ชนิดใดพูดภาษาคนได้มากที่สุด?<br />
-ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ<br />
คุณอยากให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักดำเนินไปแบบไหน?<br />
<br />
1. แกะ เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ<br />
สามารถเข้าอกเข้าใจกันได้ และสื่อสารกันด้วยสายตา<br />
โดยจำเป็นต้องพูดออกมาและดำเนินความสัมพันธ์<br />
ไปเหมือนที่คนรุ่นพ่อแม่เคยปฏิบัติ<br />
2. ม้า เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
สามารถเปิดอกพูดคุยกันได้ทุกเรื่องโดยไม่มีความลับต่อกัน<br />
3. กระต่ายเหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
มีสัมพันธภาพที่อบอุ่นและรักกันหวานชื่นตลอดเวลา<br />
4. นก เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
มีความสัมพันธ์ที่มั่นคงยาวนานเพราะคุณมองไปถึงการสร้างอนาคตร่วมกันด้วย<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 6 หากต้องติดอยู่บนเกาะร้างกลางมหาสมุทร<br />
คุณอยากจะให้ใครไปอยู่เป็นเพื่อน?<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ <br />
คุณมีแนวโน้มแค่ไหน เรื่อง “การนอกใจ” <br />
<br />
<br />
1. มนุษย์ เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
คุณเป็นคนแคร์สังคมและศีลธรรม คุณจะไม่คิดนอกใจ <br />
หลังจากแต่งงานแล้วเด็ดขาด<br />
2. หมู เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ<br />
คุณทนต่อการยั่วยุไม่ค่อยได้ดังนั้นมีแนวโน้มที่คุณจะคิดนอกใจ<br />
3. วัว เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
คุณมีความอดทนอดกลั้นดีเยี่ยม คุณพยายามที่จะไม่ให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น <br />
4. นก เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ <br />
คุณไม่มีความอดทนดังนั้นมีโอกาสที่จะกระทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมหากมีแรงยั่วยุ<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 7 ถ้ามีเวทมนต์คุณอยากจะเสกให้สัตว์ชนิดใดเป็นสัตว์เลี้ยง?<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆของคำถามข้อนี้คือคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่อง “การแต่งงาน”?<br />
<br />
<br />
1. ไดโนเสาร์เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณเป็นคนมองโลกแง่ร้ายไม่อยากแต่งงาน<br />
2.เสือขาวเหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือคุณคิดว่าการแต่งงานเป็นสิ่งที่มีค่าถ้า<br />
ได้แต่งงานคุณจะประคับประคองชีวิตคู่ให้คงไว้ตลอดไป<br />
3. หมีขั้วโลกเหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ<br />
คุณกลัวการแต่งงานเพราะคิดว่ามันอาจทำให้คุณหมดอิสระ<br />
4. เสือดาวเหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณอยากแต่งงานทั้งๆ<br />
ที่ความจริงแล้วคุณไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องการใช้ชีวิตคู่เลย<br />
<br />
<br />
คำถามข้อที่ 8 คุณจะเลือกเป็นตัวอะไรถ้าหากสามารถแปลงเป็นสัตว์ได้ 5 นาที?<br />
- ความหมายแฝงเป็นนัยๆ ของคำถามข้อนี้คือ คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับ “ความรัก”?<br />
<br />
1. สิงโต เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณมักจะเหนื่อยเสมอ<br />
ในเรื่องของความรักเพราะคุณยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่รักแต่ก็ใช่ว่า<br />
คุณจะตกหลุมรักใครง่ายๆ<br />
<br />
<br />
2. แมว เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณรักตัวเองมากกว่า<br />
และคุณก็คิดว่าความรักเป็นแค่อารมณ์อะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น<br />
<br />
<br />
3. ม้า เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือคุณไม่ต้องการจะทุ่มเทอะไร<br />
มากมายเพื่อความรัก แต่สิ่งที่คุณทำไปทุกอย่างก็เพราะไม่อยากจะอยู่<br />
คนเดียวเพียงลำพังในโลกใบนี้เท่านั้น<br />
<br />
4. นกพิราบ เหตุผลทางจิตวิทยาของคำตอบข้อนี้คือ คุณคิดว่าความรักนั้น<br />
คือการเปิดใจยอมรับที่จะใช้ชีวิตคู่กับใครสักคน<br />
<br />
<br />
<em>ที่มา : คำถามทางจิตวิทยา จากหนังสือ KOKOLOGY</em></span></span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-31139728335385307392010-04-12T17:03:00.000-07:002010-04-12T17:03:34.037-07:00Songkran Festival<span style="color: #3d85c6;">Songkran Festival</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"><br />
</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">Songkran is a Thai traditional New Year which starts on April 13 every year and lasts for 3 days. Songkran festival on April 13 is Maha Songkran Day or the day to mark the end of the old year, April 14 is Wan Nao which is the day after and April 15 is Wan Thaloeng Sok which the New Year begins. At this time, people from the rural areas who are working in the city usually return home to celebrate the festival. Thus, when the time come, Bangkok temporarily turns into a deserted city.</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">Songkran is a Thai word which means "move" or "change place" as it is the day when the sun changes its position in the zodiac. It is also known as the "Water Festival" as people believe that water will wash away bad luck.<br />
<br />
The Songkran tradition is recognized as a valuable custom for the Thai community, society and religions. The value for family is to provide the opportunity for family members to gather in order to express their respects to the elders by pouring scented water onto the hands of their parents and grandparents and to present them gifts including making merits to dedicate the result to their ancestors. The elders in return wish the youngsters good luck and prosperity.<br />
<br />
The values for community is to provide the opportunity to create unity in the community such as to jointly acquire merits, to meet each other and to enjoy the entertaining events. And for the society value is to create concern upon environment with cooperation such as to clean houses, temples, public places and official buildings. Thais value the religion bye means of merits acquisition, offerings alms to monks, Dhamma Practice, listening to sermon and monks-bathing.<br />
<br />
In the afternoon, after performing a bathing rite for Buddha images and the monks, the celebrants both young and old, joyfully splash water oon each other. The most-talked about celebration takes place in the northern province of Chiang Mai where Songkran is celebrated from April 13 to 15. During this period, people from all parts of the country flock there to enjoy the water festival, to watch the Miss Songkran Contest and the beautiful parades.<br />
<br />
In Bangkok, the Buddha image "Buddhasihing" is brought out from the National Museum for people to sprinkle lustral water at Sanam Luang, opposite the Grand Palace.<br />
<br />
<br />
<em>ที่มา : http://sunsite.au.ac.th/thailand/special_event/songkran/index.html</em><br />
<br />
......................................................................................................<br />
<br />
<br />
ประกาศสงกรานต์ 2553<br />
<br />
จ.ศ.1372 มาสเกณฑ์ 16970<br />
<br />
อวมาน 674 หรคุณ 501136<br />
<br />
กัมมัชพล 423 อุจจพล 2787<br />
<br />
ดิถี 2 วาระ 6<br />
<br />
เกณฑ์ฝนตก 300 ห่า<br />
<br />
ตกในจักรวาล 120 ห่า<br />
<br />
ตกนอกป่าหิมพานต์ 90 ห่า<br />
<br />
ตกในมหาสมุทร 60 ห่า <br />
<br />
ตาในมนุษย์โลก 30 ห่า<br />
<br />
นาคให้น้ำ 7 ตัว ฝนแล้ง<br />
<br />
เกณฑ์น้ำชื่อ เตโช น้ำน้อย<br />
<br />
เกณฑ์ธัญญาหาร ชื่อวิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผลกึ่งหนึ่ง เสียกึ่งหนึ่ง<br />
<br />
ธัญญาหาร ผลาหาร พอประมาณ<br />
<br />
เป็นปี อธิกวาร ปกติวาร ปกติสุรทิน<br />
<br />
วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ เวลา 07นาฬิกา21นาที 0 วินาที<br />
<br />
นางสงกรานต์ชื่อ มณฑาเทวี<br />
<br />
ทรงพาหุรัตน์ทัดดอก จำปา<br />
<br />
แก้วไพฑูรย์ เป็นอาภรณ์<br />
<br />
ภักษาหาร นม,เนย<br />
<br />
พระหัตถ์ขวา ทรงเหล็กแหลม<br />
<br />
พระหัตถ์ซ้าย ทรงไม้เท้า<br />
<br />
เสด็จ ยืน มาบนหลัง ลา <br />
ตำราโบราณว่า “ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะได้รับยกย่องจากต่างประเทศ”<br />
<br />
เถลิงศกเป็นจุลศักราช 1372 <br />
<br />
วันที่ 16 เษายน เวลา 11นาฬิกา18นาที36 วินาที<br />
<br />
กาลโยคประจำปี จ.ศ.1372<br />
<br />
เริ่มใช้ 16 เมษายน 2553<br />
<br />
<br />
<em>ที่มา : http://www.baanpayakorn.com/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=44</em></span></span><br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-32737034839412691342010-04-07T14:17:00.000-07:002010-04-07T14:19:03.898-07:00คำพูดโดนๆจาก?<span style="color: #3d85c6;">คำพูดโดนๆ.....!!!</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">“ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะรอดมั้ย……แต่……ความรักก็ทำให้คนบางคน อยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”<br />
<br />
“ทั้งๆที่ไม่สนุกนัก……. แต่…..ความรักก็ทำให้ใครบางคน อยู่ในที่ ที่ไม่ใช้ของตัวเองได้ซะงั้น….”<br />
<br />
“ทั้งๆที่ตอนแรกไม่ใช้แบบนี้ แต่….ความรักก็ทำให้ใครบางคนเคยถูกง้อ กลายเป็นคนที่ต้องง้อซะเองเฉยเลย”<br />
<br />
“บางครั้งที่ดีๆ……อาจจะมีคนไม่ดีปะปนอยู่บ้าง และบางครั้งที่ไม่ดี…..ก็อาจจะมีคนดีปะปนอยู่ด้วย”<br />
<br />
“เราอย่าตามหาคนที่ดีพอ……. แต่เราควรตามหาคนที่พอดี ”<br />
<br />
“การที่เราจะเริ่มรักใครสักคนมันไม่ใช่เรื่องยาก และการที่เราจะเลิกรักใครสักคนมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”<br />
<br />
“ทำให้ดีที่สุด…..ถึงมันจะแพ้…..แต่ก็ถือว่าได้ทำ”<br />
<br />
“…..คบกันตอนแรกเค้าก็ดี …..แต่มารู้อีกที….ไม่รู้ว่าเค้าไม่ดีตอนไหน…….<br />
บอกให้เลิกทำตัวไม่ดีเค้าก็ไม่เลิก บอกตัวเองให้เลิกรัก มันก็เลิกไม่ได้…….”<br />
<br />
<br />
ปล.คำพูดโดนๆจากภาพยนตร์ 32 ธันวา (อ่านแล้วอาจโดนใจใครหลายๆคน)</span></span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-2387748121577830372010-04-06T16:24:00.000-07:002010-04-07T14:11:40.349-07:00การบริจาคที่เป็นเลิศ<span style="color: #3d85c6;">หลายหน หลายครา หลายเวลาในชีวิต</span><span id="fullpost" style="color: #3d85c6;"> <br />
ที่ได้มีโอกาสบริจาคสิ่งของ หรือไม่ก็ ของเหลือใช้ ไม่ก็เงินเท่าที่ทำได้<br />
หากมีโอกาส โดยไม่เดือดร้อนตัวเอง กับโครงการของนักศึกษาบ้าง ผู้พิการบ้าง หรือหน่วยงานที่รับบริจาคบ้าง<br />
<br />
ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายนะครับ แต่รู้สึกทำแล้วสบายใจ ก็เลยทำ แล้วก็ทำอยู่เรื่อยๆ ตามแต่จะสะดวก<br />
และล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง ก็ที่งานกาชาด สวนอัมพร และปี้นี้ 53 ….เค้าจัดทุกปี หลายคนคงเคยได้ยิน<br />
ได้ไปเที่ยวชมงาน ดูหลายๆร้านมาออกบูธสินค้า และซื้อสลากกาชาด<br />
ผมไปกองอำนวยการกลางของงานกาชาด แต่ไม่ได้บริจาคเลือด หากแต่ ตัดสินใจลงทะเบียนเพื่อ บริจาค ร่างกายและอวัยวะ และ ดวงตา ครับ <br />
<br />
ผมคิดว่าหากวันใดตังเองหมดลมหายใจแล้ว…. ก็ยังสามารถได้มีส่วนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกได้อีกด้วย<br />
คิดแบบนี้รู้สึกดี ยังงัยก็ไม่รู้ ….และอาจเรียกได้ว่า “ การบริจาคที่เป็นเลิศ ” ก็ว่าได้<br />
แน่นอนผมคิดว่าคงไม่ได้มีแค่ผม ที่คิดและทำแบบนี้ครับ คงมีใครอีกหลายคนที่ทำแบบนี้เช่นเดียวกัน<br />
หากใครมีโอกาสเข้ามาอ่าน และอยากบริจาคเช่นที่ผมทำ ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่ประการใด แล้วแต่ความสมัครใจครับ<br />
<br />
“ โลกเราจะมีความสุขไปอีกนาน หากทุกคนรู้จักสังคมของการแบ่งปัน “</span><br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=5895586331977669209&postID=238774812157783037#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-74145145557008537672010-04-06T15:49:00.000-07:002010-04-07T14:12:12.947-07:00สาวแว่น...ก็สวยได้!!<span style="color: #3d85c6;">สาวแว่น...ก็สวยได้</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">"ยายแว่น" ใส่แว่นตาหนาเตอะ เมื่อก่อนคำนี้ คงเป็นคำพูดบาดใจของใครหลายๆ คนใช่ไหม แต่วันนี้ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว แว่นตาถูกออกแบบมาให้หลากหลาย รับกับใบหน้าทุกรูปทรง แถมถ้าสาวๆ คนไหนไม่ชอบใส่แว่น ก็ยังมีคอนเทคเลนส์อีกหลายชนิดมาให้เลือกใส่กันอีก คำว่าเด็กเนิร์ด เด็กเรียน สำหรับสาวใส่แว่นหมดคงไปสักที ดังนั้นปัจจุบันสาวๆ ที่ใส่แว่นแล้ว ขอบอกว่า เซ็กซี่สุดๆ ทั้งสวยทั้งน่ารัก ลบภาพลักษณ์เดิมๆ ของยายแว่นหนาเตอะไปเลยทีเดียว แถมดูน่าเชื่อถืออีกต่างหาก<br />
<br />
ก็คงไม่น่าแปลกหาก "ยายแว่น" เป็นคำที่คุ้นเคยจะแปลงกายเป็น "น้องแว่น" ผู้น่ารักและยังเป็นที่ต้องตากับหลายๆคนในยุคนี้ <br />
ส่วนสาวๆคงไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจกับการที่มีแว่นตาเป็นออฟชั่นเสริมในร่างกายอีกต่อไป<br />
จงมั้นใจได้เลยครับว่าตัวคุณเองก็มีดีเหมือนกัน และแว่นตาก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอุปกรณ์ตกแต่งใบหน้า ที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือ, มีการศึกษา, ใสซื่อบริสุทธิ์ และเอาจริงเอาจัง ที่ล้วนแต่เป็นสิ่งสร้างเสน่ห์แก่ผู้สวมใส่ด้วยกันทั้งสิ้น<br />
<br />
ในอดีตแว่นตาอาจจะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเฉิ่มเชย แต่ตอนนี้มันกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ของผู้สวมใส่มาอย่างไม่น่าเชื่อ จนทางโอริคอน ประเทศญี่ปุ่นได้ออกมาทำสำรวจอีกครั้งว่า หนุ่มและสาว แว่น คนไหนกันแน่ที่ดูดีที่สุด<br />
<br />
นับเป็นปีที่สี่แล้วที่ทางโอริคอนได้ทำการสำรวจ ชายและหญิงจำนวนกว่า 1,000 คน ถึงความเห็นของชาวญี่ปุ่นในหัวข้อที่ว่า ใครคือผู้ที่สวมแว่นได้ขึ้นที่สุด สำหรับชาวญี่ปุ่นคำว่า เมกาเนะ หมายถึงสาวหรือหนุ่มที่ใส่แว่นตา ที่กลายเป็นกระแสผู้ชื่นชม และคลั่งไคล้ ถึงขั้นประกาศสงครามต่อสิ่งที่เรียกว่าคอนแท็คเลนส์ กันขนาดนั้นเลย<br />
<br />
<br />
ปล.ตัวผมเองยังรู้สึกหวั่นไหว กับสาวใส่แว่นตาผู้น่ารัก มาแล้วเลย </span></span><br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-52770855722284989452010-03-29T14:44:00.000-07:002010-05-20T11:57:25.631-07:00คนที่ใช่กับคนที่ชอบแบบไหนล่ะ<span style="color: #3d85c6;">ระหว่าง...ความแตกต่าง</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">คนที่ใช่ - อยู่เคียงข้างเราเสมอ<br />
คนที่ชอบ - อยู่เคียงข้างเราเมื่อมีเวลา<br />
<br />
คนที่ใช่ - ให้เราได้ในทุก ๆ สิ่ง<br />
คนที่ชอบ - ให้เราได้แค่บางสิ่ง<br />
<br />
คนที่ใช่ - บอกเราเสมอว่า คิดถึง<br />
คนที่ชอบ - พูดคำว่า คิด..แต่นานๆจะมี ถึง...<br />
<br />
คนที่ใช่ - โทรหาเราเป็นประจำทุกวัน<br />
คนที่ชอบ - นาน ๆ ถึงจะโทรมาสักที<br />
<br />
คนที่ใช่ - เราไม่สบายรีบพาไปหาหมอ<br />
คนที่ชอบ - ก็รู้นะว่าไม่สบาย รีบกินยาละกัน<br />
<br />
คนที่ใช่ - ไปไหนก็เป็นห่วงเราเสมอ<br />
คนที่ชอบ - ไปไหนดูแลตัวเองด้วยนะ <br />
<br />
คนที่ใช่ - มองตาก็รู้แล้วว่าคิดอะไร<br />
คนที่ชอบ - มองตาก็รู้บ้าง ไม่รู้บ้างว่าคิดอะไร<br />
<br />
คนที่ใช่ - กินข้าวด้วยกันประจำ<br />
คนที่ชอบ - นาน ๆ ที ถึงกินข้าวด้วยกัน<br />
<br />
คนที่ใช่ - พาไปเดินห้าง ชอปปิ้ง<br />
คนที่ชอบ - ไม่เดินห้าง ไม่ชอบเพราะคนมันเยอะ!<br />
<br />
คนที่ใช่ - ไปดูหนังที่อยากดูด้วยกัน<br />
คนที่ชอบ - ใครดูเรื่องไรแล้วค่อยมาเล่าให้ฟัง<br />
<br />
คนที่ใช่ - ไม่เคยลืมวันเกิดเราเลยสักปี<br />
คนที่ชอบ - จำได้เป็นบางปี <br />
<br />
คนที่ใช่ - ซื้อของราคาเป็นหมื่นให้<br />
คนที่ชอบ - ไม่ได้ซื้อให้ แต่ทำให้แทน<br />
<br />
คนที่ใช่ - อยากได้อะไรบอก ซื้อให้หมด<br />
คนที่ชอบ - ไม่ต้องขอ อยากให้ เดี๋ยวให้เอง<br />
<br />
คนที่ใช่ - ขับรถมาหาเราทุกวันได้<br />
คนที่ชอบ - ขับรถมาหาเราได้แค่บางครั้ง<br />
<br />
คนที่ใช่ - อยากไปไหนบอก เดี๋ยวพาไป<br />
คนที่ชอบ - อยากไปไหนไม่ต้องบอก เดี๋ยวพาไปเอง<br />
<br />
คนที่ใช่ - รอเราอาบน้ำ แต่งตัวได้เป็นชั่วโมง<br />
คนที่ชอบ - ให้เวลาอาบน้ำ แต่งตัว แค่ 15 นาที!<br />
<br />
คนที่ใช่ - ส่งเราเข้านอนก่อน แล้วตัวเองค่อยไป<br />
คนที่ชอบ - นอนก่อนนะ วันนี้ไม่ไหว..ง่วง!!<br />
<br />
คนที่ใช่ - จะทำอะไร เรารู้หมดทุกอย่าง<br />
คนที่ชอบ - ทำไรอะไร ที่ไหน เรารู้บ้างไม่รู้บ้าง<br />
<br />
คนที่ใช่ - เดินเคียงข้าง ไม่ก็เดินตามหลัง<br />
คนที่ชอบ - เดินเคียงข้าง ไม่ก็เดินนำหน้า<br />
<br />
คนที่ใช่ - ข้ามถนนรีบจับมือเราก่อนทันที<br />
คนที่ชอบ - ต่างคนต่างข้าม แค่ระวังหลังให้<br />
<br />
คนที่ใช่ - อยากเจอเมื่อไหร่รีบมาทันที<br />
คนที่ชอบ - อยากเจอหรอ รอว่างก่อนนะ<br />
<br />
คนที่ใช่ - ไปเที่ยวไหนซื้อขนมมาฝากเสมอ<br />
คนที่ชอบ - ไปเที่ยวไหนก็มีแต่ รูปถ่ายมาให้ดู</span></span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-45733731536960142822010-03-28T12:25:00.000-07:002010-03-28T12:25:43.822-07:00เลขตัวสุดท้ายในบัตรประจำตัวประชาชนบอกอะไร!<span style="color: #3d85c6;">ลองดูกันเอาเองครับ.....</span><br />
<span style="color: #3d85c6;"></span><span id="fullpost"><br />
<span style="color: #3d85c6;">เลข 1 <br />
<br />
แสดงถึงความเด็ดเดี่ยว กล้าทำ กล้าแสดงออก เป็นผู้นำในหน้าที่การงานอยู่ ในจำพวกแนวหน้า และบางครั้งถูกคนอื่นมาขอความช่วยเหลือทั้งทรัพย์สินเงินทอง และคำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา จนทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าที่ควรแต่หากไม่พอใจใครแล้ว เขาจะไม่สนใจเลยเด็ดขาด เป็นจำพวกหยิ่งในศักดิ์ศรี ฆ่าได้ หยามไ ม่ได้ ไม่ยอมก้มหัวเพื่อลดศักดิ์ศรีให้ใคร หากจำเป็นจริง ๆ ยอมให้ได้เพียงกายเท่านั้น จะมีนิสัยละเอียดอ่อนในเรื่องความรักหมดเปลืองเท่าไหร่ก็ยอมเพื่อความรัก ในอนาคตหากเป็นนักธุรกิจจะประสบความสำเร็จและสามารถทำงานได้ดีทุกแขนง <br />
<br />
<br />
เลข 2 <br />
<br />
แสดงถึงความสำเร็จ ความอบอุ่นจากมิตร-บริวาร แต่บางครั้งไม่ค่อยมีความเด็ดขาดไปบ้าง เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียว หากจะลงทุนทำธุรกิจถ้าได้ร่วมทำกับคนอื่นจะดีกว่าทำคนเดียวจะมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม เป็นที่รักใคร่ของเหล่าเพื่อนฝูง แต่บางครั้งจะโดนอิจฉาอยู่บ่อย ๆ เพราะเสน่ห์ดีเกินไป ตามเลขศาสตร์บ่งบอกว่า หากจะให้ทำงานสำเร็จโด่งดังมีชื่อเสียง จะต้องทำงานร่วมกับคู่ครองตนเอง วัยกลางคนจะได้มีความสุขกับครอบครัวฐานะดีมีความสบายตามลำดับ <br />
<br />
<br />
เลข 3 <br />
<br />
แสดงถึงความทุกข์ใจ จะมีปัญหาเรื่องต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิตอยู่เรื่อยๆ หากจิตใจไม่เข้มแข็งจะทำให้ทุกข์ใจไม่สบายกายอยู่เรื่อยไป และจะต้องเพิ่มการเอาใจใส่คู่ครองและครอบครัวให้มากกว่าเดิม ระวังจะมีปัญหากับบุคคลที่ 3 เข้ามาสร้างความแตกแยกในครอบครัว หมายเลข 3 นี้ เป็นเลขแห่งเงารัก เงาร้าง ถ้าจะลงทุนทำธุรกิจไม่ควรที่จะร่วมหุ้นหรือไว้ใจบริวารให้มากนัก อย่าเป็นนักบุญให้ผู้อื่นจนเกิดเป็นความทุกข์ให้กับตนเอง และหากช่วยเหลือใครแล้วจะหวังผลคืนได้ยาก เพรา ะหมายเลข 3 เป็นเลขของผู้ให้ๆอย่างเดียว แต่เมื่อผ่านปัญหาทั้งปวงไปแล้วอีกไม่นาน จะมีความสุขความสบายกับครอบครัว <br />
<br />
<br />
เลข 4 <br />
<br />
แสดงถึงเลขแห่งจักรพรรดิ์ จะมีคนคอยเป็นห่วง จะเป็นที่รักใคร่ของผู้สูงอายุแต่จะมีความเหน็ดเหนื่อยมากอยู่เหมือนกัน เพราะ คำว่า 'แม่ทัพ' ก็รู้ความหมายอยู่แ ล้ว ไม่มีแม่ทัพคนใดไม่มีผลงานแล้วจะได้เป็นแม่ทัพหรอกน่ะ แต่หมายเลข 4 เป็นเลขแห่งความสำเร็จ ความยิ่งใหญ่ ความก้าวหน้า ความท้าทาย หากจะให้มีความเจริญก้าวหน้าเร็วๆ ก็ต้องกล้าทำกล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ แต่ระวังจะมีเพศตรงข้ามหลงรัก และเข้ามาขอสวามิภักดิ์ด้วยและไม่ต้องเป็นห่วงจะทำอะไรก็จะมีคนคอยสรรเสริญเยินยอ แต่ก่อนที่จะมีการเยินยอก็จะมีการติฉินนินทาก่อน หากอดทนไม่สนใจไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นได้ละก็ ชีวิตนี้รวยใจสบายกายอย่างแน่นอน <br />
<br />
<br />
เลข 5 <br />
<br />
แสดงถึงเลขแห่งเวทมนต์และเสน่ห์หากับเพศทั่วไป มีความหยิ่งทะนงในตัวเอง ยอมก้มหัวให้ผู้อื่นได้แค่กายแต่ใจนั้น ไม่ยอมใคร เป็นที่ปรึกษาผู้อื่นได้ดีแต่ตนเองยามเดือดร้อน หาใครช่วยปรึกษาด้วยนั้นช่างยากมาก เพราะหมายเลข 5 จะมีความสบายกาย แต่ทุกข์ใจอยู่เรื่อยเพราะคิดมากจนเกินเหตุ และจะเป็นที่รักใคร่ของญาติมิตรหากดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเอกสารจะประสบความสำเร็จดีมีชื่อเสียง แต่ไม่ว่างานด้านไหนๆ หมายเลข 5 ทำได้หมด แต่จะต้องมีเวลาให้กับเรื่องส่วนตัวบ้าง เช่น เรื่องความรัก อย่าปล่อยให้นานเกินไป จะได้พึ่งพาอาศัยบุตร-บริวารในภายภาคหน้าจะมีความพอดีกับชีวิต เกิดความสุขตลอดกาล <br />
<br />
<br />
เลข 6 <br />
<br />
แสดงถึงคนที่มีดีอยู่ในตัวแต่ไม่ค่อยยอมนำออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยเวลากับความคิดให้มากนัก หมายเลข 6 เสน่ห์อยู่ที่ 'เงา' ของตนเอง จะมีคนรักใคร่เอ็นดูทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ต้องแต่งตัวให ้เกิดจุดเด่นแก่ตนเอง และมีจิตสัมผัสเหนือธรรมชาติ หากได้นั่งสมาธิบำเพ็ญศีลจะมีบารมีสูง ผู้คนจะรักใคร่เอ็นดู จะทำอะไรก็ล้วนแต่ประสบความสำเร็จดีทั้งสิ้น หมายเลข 6 ต้องลดโทนเสียงลงอีกเพราะโทนเสียงนั้นบ่งบอกถึงอำนาจ ความยิ่งใหญ่เกินตัว ไม่เพราะแก่ผู้ได้ยิน ผู้ใหญ่รักใคร่เอ็นดู สนับสนุนในด้านการงาน เมื่อเกิดปัญหาใดๆ ตนเองมักจะเอาตัวรอดได้เสมอ จะมี ความสุขในบั้นปลาย <br />
<br />
<br />
เลข 7 <br />
<br />
อย่าปล่อยเวลาให้เสียไปกับคนอื่นให้มากนักและอย่ายึดติดอยู่กับที่ เพราะหมายเลข 7 เป็นหมายเลขที่ต้องเดินทางเพื่อทำการค้า เป็นไกด์ หรือทำงานที่ต้องมีการเจรจาอยู่ตลอดเวลาจะทำให้ประสบความสำเร็จ ระวังจะมีปัญหาเรื่องรักๆ ใคร่ๆ เกิดขึ้นในครอบครัว หรือเรื่องรัก 3 เส้าเกิดขึ้นในชีวิตคู่ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ ก็ไม่ต้องวิตกให้มากนัก เพราะทุกอย่างจะคลี่คลายไปได้ด้วยดี การเงินถึงจะไม่คล่องบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะหมายเ ลข 7 เป็นเลขที่ส่งลาภผลอยู่เนืองๆ หากผู้ใดที่ได้หมายเลข 7 และก็ยอมเหนื่อยหน่อยในระยะเริ่มต้น และอีกไม่นานจะมีความสุขโชคลาภเพิ่มพูน และจะได้รับความสุขกับ มิตร-บริวาร <br />
<br />
<br />
เลข 8 <br />
<br />
แสดงถึงคนมีบุญบารมี และวาสนาดีมีชื่อเสียงให้คนทั้งหลายได้ประจักษ์แต่ต้องหมั่นเรียนรู้เร่งศึกษาอย่าอยู่นิ่ง กล้าเปิดเผย กล้าทำ กล้าแสดงออก กล้าตัดสินใจ รีบไขว่คว้าแล้ว หน้าที่การงานที่ทำจะได้ผลดีเป็นที่พอใจ และผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือ อย่าหลงใหลมัวเมาในกิเลสตัณหาให้มากนักอย่าสนุกจนลืมครอบครัวแล้วบั้นปลายชีวิตจะมีฐานะดีเป็นที่พอใจของวงศ์ตระกูลมีชื่อเสียงเป็นที่นับถือของคนทั่วไป <br />
<br />
<br />
เลข 9 <br />
<br />
แสดงถึงอำนาจ ความยิ่งใหญ่ หากเป็นผู้นำจะเจริญก้าวหน้า ทำงานด้วยสมองเป็นนักพูด หรือนักบรรยายจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่หน้าที่ ที่เหมาะคือผู้เผยแพร่ศาสนา จะมีผู้คนยกย่องสรรเสริญแ ละยังมีจิตสัมผัสเหนือคนทั่วไป บางครั้งสามารถรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ใครได้หมายเลข 9 จะเป็นผู้อยู่เหนือลิขิตสวรรค์จะทำอะไรก็สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยตนเอง<br />
<br />
<br />
แท้จริงเช่นใดคุณคงรู้ด้วยตัวเอง.........หากแต่มีสติใช้วิจารณญาณในการอ่านสักหน่อยครับ<br />
ส่วนของผมนั้นมัน ก็ใกล้เคียงนะ</span></span><br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-63857092841754127352010-03-25T07:54:00.000-07:002010-03-25T09:49:23.358-07:00สัมผัสธรรมชาติ เกาะพีพี<span style="color: #3d85c6;">หลังจากเสร็จงานอีเว้นท์ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ตแล้ว ก็หาโอกาสช่วงวันว่างได้ เลยอยากอยู่เที่ยวต่อก่อนกลับกรุงเทพ และเพื่อนเค้าแนะนำว่าไปเที่ยว “เกาะ พีพี งัยเคยไปหรือยัง! “ ส่วนผมไม่เคยไปซักที ก็เลยตอบตกลง และได้ตั๋วแพ็คเก็จ ราคาพิเศษด้วยครับ</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">การเดินทางโดยนั่งเรือจากภูเก็ต ไปประมาณสองชั่วโมงครับ ถึงเกาะพีพี เขตจังหวัดกระบี่ หาดที่นี่ก็ ขาว สวย สมคำล่ำลือแหล่ะ</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">หลังจากพักประมาณครึ่งชั่วโมง ก็จะออกไปดำน้ำด้วย สน็อคเกิ้ล ครับ ดูปลา ให้อาหารปลา แล้วก็ ดูปะการังกัน แล้วค่อยกลับขึ้นมาทานอาหารเที่ยง พักผ่อนอีกเล็กน้อยแล้วค่อยกลับเข้าฝั่งภูเก็ต นั่นคือโปรแกรมการทัวร์คร่าวๆ</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">…..ห่างจากชายฝั่งออกไปประมาณหนึ่งกิโลเห็นจะได้ เราต้องสวมเสื้อชูชีพด้วย และมีเค้ามีแว่นดำน้ำให้ หากใครว่ายน้ำเก่ง ก็ไม่ต้องใส่อุปกรณ์ชูชีพ แต่ต้องระวังด้วยเพราะอาจเกิดอันตรายได้หากประมาท จากคำแนะนำของผู้นำคณะทัวร์ แรกๆผมก็ใส่แหละ แต่ตอนหลังก็ถอดออกเพราะไม่คล่องตัวเวลาดำลงไปดูปะการัง<br />
แล้วเค้าก็โยนอาหารปลาลงมา เสมือนเรียกร้องให้เหล่าปลาสวยงามเหล่านั้น รวมตัวกัน ผลัดกันโชว์ความงดงามและสีสันบนตัวของพวกมมันสลับกับการแทะเล็มเศษอาหารปลาที่ลอยอยู่ <br />
ผมอยู่ในน้ำแลัวครับ มองเห็นได้ชัดเจนมากๆ เหล่าฝูงปลาทะเล สีสันสวยงาม ผลัดกันว่ายรอบๆผ่านลำตัวของผมอย่งใกล้ชิด ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ พวกมันคุ้นกับคนมาก ไม่ตื่นตกใจเลย ก็วันๆคงมีคณะทัวร์แวะมาทักทายพวกมัน บ่อยๆแหละครับมันเลยชินมั้ง<br />
<br />
หลังจากนั้นก็ดำน้ำดูปะการังด่านล่าง ความลึกน่าจะประมาณ 3-5 เมตรได้ดำลงไปก็ปวดหูนิดๆแหละ<br />
แต่ด้วยความสวยของปะการังมองดูเป็นแถวบ้าง เป็นก้อนบ้าง มันช่างเป็นโลกใต้น้ำที่น่าดูทีเดียว<br />
ผมรู้สึกไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติถึงหลงใหลธรรมชาติโลกใต้น้ำของเมืองไทยและชอบที่จะมาท่องเที่ยวชม ปะการัง บ้าง ดำน้ำ บ้าง อยู่บ่อยๆ</span></span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เพราะไม่ว่าจะเป็นเหล่าฝูงปลาทะเลสีสัน เหล่าปะการังที่เรียงรายอยู่ใต้น้ำคือสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า และเป็นคำตอบที่ดีที่สุดอยู่แล้ว</span><br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5895586331977669209.post-31789170366917756832010-03-24T23:20:00.000-07:002010-03-24T23:20:34.124-07:00เที่ยวเกาะล้าน<span style="color: #3d85c6;">ก็อยากเล่าบรรยากาศที่เคยไปมาแหละครับช่วงปีใหม่ 2010</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">จริงแล้วเมืองไทยมีสถานที่น่าดูน่าเที่ยวเยอะ แต่หลายคนก็ไม่มีโอกาสเห็น</span><br />
<span style="color: #3d85c6;">และครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ใกล้กรุงเทพมาก เดินทางโดยรถยนต์ไม่กี่ร้อยกิโล ถึงพัทยา แล้วนั่งเรือต่อไปอีก 45 นาทีจะถึงซึ่งจุดหมายนั่นคือ เกาะล้าน</span><span id="fullpost"><br />
<br />
<span style="color: #3d85c6;">ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวไทยก็จะลงที่หาดตาแหวนกัน ส่วนผมก็ติดสไตล์ต่างชาติจึงไปลงที่หาดแสม ที่นี่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเยอะมากและผมเชื่อว่าหาดไหนก็ตามที่ต่างชาตินิยมมา นั่นแหละเจ๋ง (ที่จริงแล้วหาดไหนๆเมืองไทยก็สวยหมดแหละ.....) ครับหาดสวยมาก ไม่โดนทำลายธรรมชาติไปมากนัก แต่พวกสัมปะทานให้เช่าเตียงผ้าใบนี่แหละทำบรรยากาศเสียหมด เนื่องจากผูกมัดลูกค้ามากเกิน ต้องนั่งตรงนี้….. ต้องสั่งอาหารร้านฉันนะ ….. อย่าไปนั่งร้านนั้นนะ...<br />
เห้อ…. คนไทยด้วยกันแท้ๆ <br />
<br />
มาว่ากันต่อ…..</span></span><br />
<span style="color: #3d85c6;">เป็นครั้งแรกของผมสำหรับที่นี่ ไม่น่าเชื่อครับว่า หาดทรายจะสวย และน้ำก็ยังใสมาก ผิดกับชายหาดพัทยาหรือบางแสนนั่น อย่างหน้ามือเป็นหลังมือเลย ผมนำแว่นว่ายน้ำไปด้วย ได้ใช้เลยแหละ สามารถดำดูปลาตัวเล็กที่อยู่ตามปะการัง หรือตามโขดหินเล็กๆตามชายหาดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งปกติจะไม่ค่อยเห็นนะ ปลาพวกเนี้ย ใกลักันมีจุดชมวิวอยู่บนเนินขึ้นไปห่างไปประมาณร้อยเมตร มองลงมาแล้วสูดอากาศชายทะเลแล้ว .....อืมมมม สดชื่นจริงๆ</span><span style="color: #3d85c6;">และไม่ผิดหวังเลยครับ สำหรับเกาะล้าน ไว้คราวหน้าจะไปค้างคืนซะหน่อย และหากใครต้องการพักผ่อนแบบนี้ เดินบนหาดทรายขาว ดูทะเลสวย น้ำใส ละก็อย่าพลาดครับ ที่นี่ เกาะล้าน</span><br />
<br />
<br />
<br />
<center><a href="http://www.blogger.com/post-create.g?blogID=5895586331977669209#top">TOP</a></center>ที่ว่างของฉันhttp://www.blogger.com/profile/11581129633097358669noreply@blogger.com0